ผบ.ตร.แถลง 191 จับเครือข่ายไอซ์บิ๊กล็อต 599 กก. เป็นชาวเขาพบพระ ขนจากด้านซ้าย จ.เลย มาซุกตลาดไท เผยแก๊งค้ายาไม่รับเงินสด ดึงสรรพากรร่วมตรวจสอบด้วย
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.)พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ(ผบก.สปพ.)หรือ 191 พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี , พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบก.สปพ. , พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจฯ บก.สปพ. ร่วมกันแถลงกรณี ชุดปฎิบัติการ บก.สปพ.(191) สกัดจับกุมนายพีระพล นายสันติธรรม นายเจ้อ นายชัยรัตน์ และนายเข่ง (ขอสงวนนามสกุล) 5 ผู้ต้องหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาไอซ์ หรือเมทแอทเฟตตามีน ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนักรวม 599 กิโลกรัม รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บท 8341 ตาก และกระบะโตโยต้า ทะเบียน บต 9155 ตาก รวม 2 คัน ขณะเข้ามาจอดภายในโกดังสินค้าญี่ปุ่น ตลาดไท ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และ โทรศัพท์ จำนวน 6 เครื่อง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา บก.สปพ. จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด จำนวน 2 ราย พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 34 กิโลกรัม ยาบ้า 1,642,000 เม็ด และเคตามีน 40 กิโลกรัม ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางแค กทม.ต่อมา พล.ต.ต.สำราญ นำขยายผลพบความเชื่อมโยงกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดเป็นชาวไทยภูเขาใน อ.พบพระ จ.ตาก ได้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากบริเวณ อ.ด่านซ้าย จ.เลย เพื่อนำมาส่งให้ลูกค้าบริเวณตลาดไท โดยใช้รถยนต์ที่ยึดเป็นของกลาง สำหรับขนยาเสพติดและขับนำเส้นทางเพื่อระวังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมาพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายนำของกลางมาส่งที่ตลาดโกดังสินค้าญี่ปุ่นดังกล่าว จึงจับกุมนำมาสอบสวนซักถามและขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับปัญหายาเสพติดที่ บก.สส.บช.น.กับ บก.สปพ.ที่จับกุมครั้งนี้ ขบวนการจะแตกต่างคนละชุด เป้าหมายเอาลงมาที่กรุงเทพ
ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำชับทุกครั้งที่ประชุมที่ ตร. เรื่องยาเสพติด เงินกู้นอกระบบ ตร.ขับเคลื่อนเป็นอย่างดี เป็นวาระแห่งชาติ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ทุกหน่วยร่วมมือกันมาโดยตลอด ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้องทุกระบบเอากรมสรรพกรเข้ามาร่วมด้วย ปัจจุบันขบวนการค้ายา ไม่รับเงินสด เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น จับได้เฉพาะพวกคนรับยาจะไม่ได้ตัวการใหญ่