ทำงานวันแรก! พ.ต.ท.กรวัชร์ อธิบดีดีเอสไอคนใหม่ ลุยต่อคดีบิลลี่

ทำงานวันแรก! พ.ต.ท.กรวัชร์ อธิบดีดีเอสไอคนใหม่ ลุยต่อคดีบิลลี่ รุดลงพื้นให้กำลังใจ “มึนอ” แจงความคืบหน้า ขอดูสำนวนก่อนมีความเห็นแย้งหรือไม่

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 มิ.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าสักการะพระพุทธวิชัยอภัยมารนิราศ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเยี่ยมชม “ตู้ดีเอสไอ ปันสุข ปันนำ้ใจ”

พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) จะลงพื้นที่ให้กำลังใจ นางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ที่บ้านพักในตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อแจ้งความคืบหน้าของคดี เพราะในช่วงที่ผ่านมา นางมึนอพยายามส่งสัญญาณมาที่ตนเองตลอดแต่อยู่ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีจึงไม่สามารถทำอะไรได้มาก

“ตอนนี้ผมกลับมารับหน้าที่อธิบดีดีเอสไอ ผมเลยอยากไปให้กำลังใจ สร้างความมั่นใจ ความปลอดภัย เรื่องคดีและอยากไปแจ้งความคืบหน้าทางคดีให้กับมึนอและครอบครัว” พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าว

พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในคดีนี้พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สรุปสำนวนความเห็นสั่งฟ้องไปยังพนักงานอัยการแล้วซึ่งพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในบางข้อหาดังนั้นตนในฐานะอธิบดีก็จะขอดูรายละเอียดในสำนวนในข้อหาที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ว่าจะมีความเห็นแย้งหรือไม่แต่ยืนยันว่า ในส่วนของพยานหลักฐานยังคงมั่นในหลักฐานทางวิทย์นิติวิทยาศาสตร์ จากการตรวจดีเอ็นเอด้วยระบบไมโครคอนเรียเป็นเป็นสิ่งที่ใช้กันทั่วโลก

Advertisement

พ.ต.ท.กรวัชร์ยังกล่าวถึงแนวทางการทำงาน ว่า ในการมารับตำแหน่งใหม่ มุ่งเน้นให้ความสำคัญในส่วนของคดีที่มีผลกระทบในวงกว้าง คือ คดีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก และในส่วนของประเทศไทย UN รายงานมูลค่า ความเสียหายจากอาชญากรรม มีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตั้งเป็นกองฟอกเงินเพื่อดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ

ส่วนเรื่องที่สองคือการให้ความสำคัญกับคดีที่เกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยงภาษี เนื่องจากการรั่วไหลของเงินภาษีจำนวนมาก กรมสอบสวนคดีพิเศษซึ่งมีพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการกับการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับภาษี ทั้งพระราชบัญญัติศุลกกากร พระราชบัญญัติสรรพากรและพระราชบัญญัติสรรพสามิต นำมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินคดีแต่ละประเภท อย่างเช่น คดีรถหรู ซึ่งมีการกระทำความผิดหลบเลี่ยงภาษีและช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่ามีการวิ่งเต้นคดี ยืนยันว่าเป็นเพียงข่าวแต่ฝากบอกไปยังผู้ที่คิดจะวิ่งเต้น ถ้ามีคนอ้างว่าจะเอาเงินมาให้ผม เพื่อล้มคดี ว่าหน้าตาอย่างผมมีคนเดียว จำง่าย และหากมีข้าราชการทุจริตหรือเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image