ตำรวจวิชิตรวบอดีตพนักงานโรงแรม ตระเวนลักทรัพย์บริษัทเคอรี่-ไปรษณีย์ในภูเก็ต อ้างโควิด-19 ทำตกงาน จึงตัดสินใจก่อเหตุหาเงินจ่ายค่าเทอมและชุดนักเรียนให้ลูก
เมื่อวันที่ 2 ก.ค.63 พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.วิชิต เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.วิชิต นำโดย พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รอง ผกก.สส.สภ.วิชิต พ.ต.ท.ฉัตรชัย ชูหนู สว.สส.สภ.วิชิต, ร.ต.อ.กิติศักดิ์ ช่วยแก้ว, ร.ต.อ.พิเชษฐ์ กัลชาญวรรธนะ, ร.ต.ท.สมเกียรติ พลนุ้ย รอง สว.สส.สภ.วิชิต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.วิชิต
ร่วมติดตามจับกุมตัว นายภาคิน เรือนเพ็ชร อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ ภายในบริษัทเคอรี่ สาขาภูเก็ต และสำนักงานไปรษณีย์ไทยในพื้นที่ สภ.วิชิต และพื้นที่เมืองภูเก็ต รวม 3 แห่ง พร้อมยึดของกลางประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 1กต 6649 ภูเก็ต ที่ใช้ก่อเหตุ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ยี่ห้อเดล (DELL) สีดำ จำนวน 1 เครื่อง และใบเสร็จรับเงิน จำนวน 2 ฉบับ
ทั้งนี้ การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2563 พนักงานสอบสวน สภ.วิชิต ได้รับแจ้งจาก ผู้เสียหายว่าเวลาประมาณ 01.30 น.ของวันที่ 28 มิ.ย.63 ได้มีวัยรุ่นชาย อายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงสามส่วน สวมใส่หน้ากากอนามันและใส่หมวกแก๊ป ได้บุกรุกเข้าไปภายในบริษัทเคอรี่ สาขาภูเก็ต แล้วได้ทำการรื้อค้นทรัพย์สินภายในที่เกิดเหตุและได้หลบหนีไป
จากนั้นชุดสืบสวน สภ.วิชิต ได้ดำเนินการสืบสวน ติดตามหาผู้ก่อเหตุ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุใช้รถ จยย.หมายเลขทะเบียน 1กต 6649 ภูเก็ต ก่อนติดตามจนทราบว่าผู้ครอบครอง คือ มารดาของนายภาคิน ผู้ก่อเหตุ ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ ม.1 ต.กะทู้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงเดินทางไปพบและสอบถามมารดาผู้ก่อเหตุ ซึ่งมารดาให้การว่า ในวันที่ 28 มิ.ย. 63 บุตรชายของตนได้นำรถ จยย.ไปใช้จริงก่อนนำกลับมาคืน เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ก่อนติดตามจับกุมตัวนายภาคินได้ที่บ้านเลขที่ 45/35 ม.1 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
จากการสอบถาม นายภาคินยอมรับว่า วันที่ 28 มิ.ย.63 ตนเองได้เข้าไปลักทรัพย์ภายในบริษัทเคอรี่ สาขาภูเก็ต ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก จริง โดยใช้รถ จยย.หมายเลขทะเบียน 1กต 6649 ภูเก็ต และยังยอมรับเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.63 ตนเองได้ก่อเหตุลักทรัพย์ที่ไปรษณีย์ไทย และบริษัทเคอรี่ ในพื้นที่ สภ.เมืองภูเก็ต ได้ทรัพย์สินเป็นโน้ตบุ๊ก และเงินสดจำนวนหนึ่ง โดยสาเหตุที่ก่อเหตุนั้นสืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ตนเองทำงานเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ภูเก็ต พอเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ตกงานไม่มีเงินใช้จ่าย และไม่มีเงินเสียค่าเทอมให้ลูก จึงตัดสินใจออกตระเวนก่อเหตุ และหลังก่อเหตุได้นำทรัพย์สินไปเก็บไว้ และนำเงินบางส่วนที่ได้ไปจ่ายค่าเทอมและซื้อชุดนักเรียนให้ลูก
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน ในยามวิกาล โดยใช้พาหนะฯ” ก่อนนำตัวนายภาคินส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
