อัยการเลื่อนนัด’พุทธะอิสระ-สุเทพ–บิ๊กกปปส.–นักวิชาการ’รายงานตัวฟังผลคดีร่วมกบฏ 27 ก.ย.

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม หนึ่งในผู้ต้องหาร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.), แกนนำ กปปส.และนักวิชาการซึ่งร่วมชุมนุมเมื่อปี 2556-2557 รวม 48 คน ถูกกล่าวหาร่วมกันเป็นกบฏ, ร่วมกันสนับสนุนเป็นกบฏ และความผิดอื่น รวม 8 ข้อหา ได้เดินทางเข้าพบพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เพื่อรายงานตัวและทราบนัดการสั่งคดี

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยภายหลังพระพุทธะอิสระ รายงานตัวว่า พระพุทธะอิสระ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีรวมกบฏ เดินทางมาพร้อมกับทนายความ เพื่อรับทราบนัดการสั่งคดี ซึ่งนายนภดล บุญศร อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 รับผิดชอบสำนวนคดี ได้แจ้งให้พระพุทธะอิสระ มารายงานตัวเพื่อฟังคำสั่งอีกครั้งในวันที่ 27 กันยายนนี้ เวลา 09.00 น.

นายวิโรจน์ ภูมิศิริสวัสดิ์ หนึ่งในทีมทนายความ กปปส. กล่าวว่า สำหรับนายสุเทพ และแกนนำ กปสส.อื่นกว่า 40 คน ได้ยื่นหนังสือแจ้งอัยการขอเลื่อนนัดรายงานตัวมาก่อนแล้ว เท่าที่ทราบอัยการยังไม่ได้มีคำสั่งทางคดีโดยคดีมีการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งอัยการนัดฟังคำสั่งอีกครั้งเดือนกันยายนนี้ สำหรับคดีนี้อัยการได้ยื่นฟ้องนักวิชาการไปแล้ว 4 คน ประกอบด้วยนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, นายสกลธี ภัททิยกุล, นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และนายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสำนวนคดีการชุมนุมของ กปปส.นั้น อัยการได้มีความเห็นเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 สั่งฟ้องนายสุเทพ เลขาธิการ กปปส.และแกนนำ กปปส.รวม 43 คน ข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ , กระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดที่มิใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่ยอมเลิก, ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน ปิดงานงดจ้าง เพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และบุกรุกสถานที่ราชการ รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้งและสั่งให้ฟ้องนักวิชาการ 5 คน ที่ได้ร่วมขึ้นปราศรัยด้วย ในข้อหาร่วมกันสนับสนุนนายสุเทพ เลขาธิการ กปปส. กระทำการอันเป็นกบฏดังกล่าว แต่เนื่องจากระหว่างนั้น นายสุเทพ เลขาธิการ กปปส. กับพวกผู้ต้องหา 48 คน พนักงานสอบสวน ดีเอสไอยังไม่ได้รับตัวไว้สอบสวนเพราะติดการชุมนุม โดยผู้ต้องหาดังกล่าวก็ยังไม่ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนตามขั้นตอนให้ครบถ้วน ดังนั้นเมื่ออัยการมีความเห็นสมควรสั่งให้ฟ้องแล้ว จึงให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอไปดำเนินการเรียกตัวผู้ต้องหามาสอบและสรุปเป็นสำนวนคำให้การตามขั้นตอนให้ครบถ้วนเพื่อส่งสำนวนคดีกลับมาให้อัยการเพื่อจะรวมยื่นฟ้องเป็นคดี ดังนั้นภายหลังเมื่อสิ้นสุดการชุมนุม กปปส. ต่อมาจึงได้มีการร้องขอเป็นธรรม และดำเนินการตามขั้นตอน ขณะที่คดีดังกล่าวมีอายุความ 20 ปีในการดำเนินคดี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image