คัดผู้ต้องขังชั้นเยี่ยมใส่ ‘กำไลอีเอ็ม’ พักโทษพ้นคุก ลดความแออัดในเรือนจำ

คัดผู้ต้องขังชั้นเยี่ยมใส่ ‘กำไลอีเอ็ม’ พักโทษพ้นคุก ลดความแออัดในเรือนจำ

สั่งราชทัณฑ์เตรียมคัดผู้ต้องขังชั้นเยี่ยมใส่กำไลอีเอ็ม สมศักดิ์ตั้งคณะอนุกก.ฯศึกษาใช้อีเอ็มฯคุมผู้ต้องขังทำงานนอกเรือนจำ ชี้เหตุอาหารคุกไม่ได้มาตรฐานเพราะตู้เย็นไม่พอแช่

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการราชทัณฑ์ว่า ปัจจุบันเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่งมีนักโทษจำนวน 380,000 คน แต่เรือนจำมีพื้นที่รองรับเพียง 220,000 คน และในช่วงเกิดการแพร่ระ บาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าได้มีการบริหารจัดการพื้นที่ในเรือนจำเพื่อพื้นที่กักเชื้อ และทำเตียง 2 ชั้นเพิ่มพื้นที่ให้ผู้ต้องขังได้มีนอนเพิ่มอีก 80,000 ตารางเมตร แต่ก็ยังไม่เพียงที่จะรองรับนักโทษที่เหลืออีก 80,000 คน

ซึ่งตนเห็นว่าอาจจะยังไม่จำเป็นที่ต้องสร้างเรือนจำเพิ่ม แต่จะใช้วิธีคัดกรองนักโทษตามลำดับชั้น ให้เป็นหลักเกณฑ์เงื่อนไขการพักโทษตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ เช่น นักโทษสูงอายุ นักโทษที่มีความประพฤติดีชั้นเยี่ยม และผู้ใกล้พ้นโทษ หรือเหลือโทษจำคุกน้อยด้วยการติดอุปกรณ์ติดตามตัว หรือกำไลอีเอ็ม  เวลาได้รับการปล่อยตัวให้ออกจากเรือนจำในระหว่างพักการลงโทษ

Advertisement

ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหานักโทษล้นคุก อย่างไรก็ตาม ก็มีเงื่อนไข คือ บุคคลที่ถูกติดกำไลอีเอ็มเมื่อออกมาอยู่ในสังคมแล้วจะต้องไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนยังมีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมศึกษาการใช้อุปกรณ์ติดตามตัวอิเลคทรอนิกส์ หรือ กำไลอีเอ็ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารความจุผู้ต้องขัง และการควบคุมผู้ต้องขังออกทำงานนอกเรือนจำ โดยคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว จะมีหน้าที่ศึกษารูปแบบการบริหารจัดการและปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้งานขอกำไลอีเอ็ม พร้อมทั้งนำข้อมูลมาวิเคราะห์ประเมินผลและกำหนดแนวทางการใช้กำไลอีเอ็มในสถานการณ์ต่างๆ

Advertisement

เพื่อลดความแออัดของนักโทษในเรือนจำ การบริหารความจุผู้ต้องขัง ประเภท ฐานความผิด พฤติกรรมของผู้ต้องขังขณะที่อยู่ในเรือนจำ โดยจะต้องประสานกับกรมคุมประพฤติและกรมราชทัณฑ์ รวมทั้งมีแผนจัดการการใช้กำไลอีเอ็มให้สอดคล้องกับหลักกฎหมายและการนำไปใช้ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายสมศักดิ์  ยังกล่าวถึงกรณีเรื่องคุณภาพอาหารในเรือนจำที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น พบบางส่วนไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องปรับปรุงและแก้ไข เพราะเรือนจำเก่าเมื่อก่อนมีนักโทษ 500 คน แต่ปัจจุบันมี 2,000 คน ทำให้ตู้เย็นที่ใช้ก็ไม่สามารถเก็บได้เพียงพอ พร้อมกันนี้ ตู้แช่ก็เก่า โดยก็ต้องไปแก้ไขให้ดี เพราะพอเกิดเชื้อโรค นักโทษก็เจ็บป่วย หรือ บางทีเสียชีวิตกัน 3-4 คน ดังนั้น มหาวิทยาลัยที่ตรวจจะเป็นหูเป็นตาให้กับตนไว้ปรามผู้บัญชาการเรือนจำให้ต้องใส่ใจ รับผิดชอบ ในทุกกระบวนการ ไม่ปล่อยปละละเลย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image