เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 28 กรกฎาคม ร.ต.อ.ปาล เมืองกลาง รอง สว.(สอบสวน) สน.บางพลัด รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายราย ภายในบ้านเลขที่ 1774, 1726, 1762 ชุมชนข้าง สน.บางพลัด (ชุมชนธารทอง) ซอยจรัญสนิทวงศ์ 75 แขวงและเขตบางพลัด กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พ.ต.อ.เมธี รักษ์พันธ์ รอง ผบก.น.7 พ.ต.ท.ชัชชัย จักรวิวัฒนากุล รอง ผกก.สส.สน.บางพลัด เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางพลัด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุภายในบ้านเลขที่ 1774 พบศพนายสุดใจ รักเงิน อายุ 79 ปี อดีตพนักงานการไฟฟ้า นอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อกล้ามสีดำ กางเกงขาสั้นสีกรมท่า มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 มม. เข้าบริเวณขมับขวาทะลุซ้าย ข้างกันพบอาวุธปืนขนาด .38 มม. ตกอยู่ ขณะเดียวกันภายในบ้านเลขที่ 1762 พบศพนายสมชาย เนียมพงษ์ อายุ 54 ปี อาชีพช่างก่อสร้าง นอนเสียชีวิต ไม่ใส่เสื้อ สวมกางเกงขาสี่ส่วนลายสก๊อตสีขาว-ดำ เลือดท่วมตัว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าบริเวณลำคอ นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย คือนางวัชรี สวนวิจิตรทิพ อายุ 50 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณไหปลาร้าด้านขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส นายวิทย์ หอมทอง อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณแก้มขวาทะลุคอ ถูกนำส่งรักษาตัวที่วชิระพยาบาล และนางสุนิสา นาคสุทิน อายุ 19 ปี ถูกยิงบริเวณไหล่และมือทั้งสองข้าง จำนวน 4 นัด ถูกนำส่งรักษาตัวที่ รพ.ยันฮี นอกจากนี้พบปลอกกระสุนจำนวนขนาด .38 มม. จำนวน 8 ปลอกอยู่ทั่วบริเวณที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้นายสุดใจมีภรรยาทราบชื่อนางชลอ ปิ่นเกตุ โดยมีนายวิทย์ เป็นลูกติดภรรยา โดยทั้ง 3 คนได้มาเช่าบ้านอยู่บ้านเลขที่ 1726 ซึ่งเป็นของนางวัชรีกระทั่งเมื่อช่วงปีที่แล้ว นางชลอจับได้ว่านายสุดใจแอบมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่อยู่ในซอยเดียวกัน จึงได้เลิกรากัน ต่อมานายสุดใจได้มาขอแบ่งเช่าห้องอีกทั้งได้ทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ภายในซอยดังกล่าว โดยขอเช่าจากนายสมชายซึ่งอาศัยอยู่กับนางนง เนียมพงษ์ ภรรยา พร้อมนายนำโชค เนียมพงษ์ ลูกชาย และนางสุนิสา ลูกสะใภ้ ระหว่างที่อยู่ด้วยกันนางนงได้ขอยืมเงินจากนายสุดใจมาใช้จ่ายเป็นเงินจำนวนหลายหมื่นบาท พอนายสุดใจมีการไถ่ถามถึงเรื่องเงินที่ยืมไป ก็มีปากเสียงทะเลาะกัน จนนายสุดใจถูกไล่ออกจากบ้านเช่าและมาเช่าบ้านอยู่ที่บ้านเลขที่ 1774
หลังจากที่นายสุดใจได้ไปเช่าห้องพักดังกล่าวได้เพียง 2 วัน นางวัชรีซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินได้เข้ามาพูดกดดันนายสุดใจให้ย้ายออกจากชุมชน เนื่องจากมีปัญหากันเรื่องที่จอดรถ อีกทั้งคนในชุมชนไม่ชอบนิสัยของนายสุดใจอยู่แล้ว เพราะนายสุดใจเป็นคนโผงผาง ชอบหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว ก่อนเกิดเหตุนายสุดใจได้พกอาวุธปืนติดตัวและเดินไปหานางวัชรี เพื่อพูดคุยปัญหาที่คาใจกัน จนพบกับนางวัชรีที่บริเวณกลางซอย ก่อนพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง จนนายสุดใจบันดาลโทสะ คว้าอาวุธปืนที่พกติดตัวมารัวยิงใส่นางวัชรีจนล้มลงร้องโอดโอย ก่อนเอากระสุนออกจากลำเพลิงจำนวน 3 นัด จากนั้นนายสุดใจเดินไปภายในบ้านพักของนางชลอแต่ไม่อยู่บ้าน พบแต่เพียงนายวิทย์ล้างจานอยู่ที่หลังบ้าน ด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นจึงชักปืนยิงใส่นายวิทย์ได้รับบาดเจ็บ
ต่อมานายสุดใจเดินไปที่บ้านเลขที่ 1726 ที่ก่อนหน้านี้ถูกไล่ออกมาเพื่อชำระความแค้นพบนายสมชายอยู่ภายในบ้านพักกำลังนอนดูโทรทัศน์อยู่ นายสุดใจไม่พูดพร่ำทำเพลงหยิบปืนรัวกระสุนใส่นายสมชายจนเสียชีวิต ส่วนนางสุนิสาเมื่อได้ยินเสียงปืนดังจึงรีบวิ่งออกมาดูก่อนโดนนายสุดใจยิงปืนใส่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่นายสุดใจกลับมาที่บ้านพักและได้เปลี่ยนกระสุนปืนออกใส่เต็มลำเพลิงอยู่บริเวณหน้าบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุและพูดเจรจาให้นายสุดใจยอมมอบตัว แต่นายสุดใจมีท่าทีขึงขังก่อนยิงปืนขึ้นฟ้าจำนวน 2 นัดและวิ่งหลบหนีเข้าบ้าน จากนั้นไม่นานมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดภายในบ้านพักเจ้าหน้าที่รีบเข้าไปตรวจสอบจนพบว่านายสุดใจยิงตัวเองเสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้เกิดจากความกดดันที่นายสุดใจโดนไล่ที่ให้ออกไปอยู่ที่อื่น ประกอบกับที่มีลูกหนี้กู้ยืมเงินจากนายสุดใจจำนวนหลายราย จนเกิดความเครียดจึงก่อเหตุไล่ยิงชำระแค้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ต้องรอสอบสวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
