ส.ส.ชวลิต เฉลยคิดยังไง ถึงได้ความเร็วไม่ถึง 80 กม./ชม. รถเฟอร์รารี ‘บอส อยู่วิทยา’
ส.ส.ชวลิต เฉลยคิดยังไงได้ความเร็วไม่ถึง 80 กม./ชม. รถ’บอส อยู่วิทยา’ต้องเคลื่อนที่ในแนวทแยงมุม
จากกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ ‘บอส’ ในคดีขับรถชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 และต่อมามีปมประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการคำนวณความเร็วรถยนต์เฟอร์รารีของนายวรยุทธ ตามเอกสารคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการคดี “บอส อยู่วิทยา” ซึ่งเป็นรายละเอียดคดีตั้งแต่ปี 2555 จนปี 2560 มีการสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญและพยานที่ให้ข้อมูลว่ารถเฟอร์รารีคันก่อเหตุขับด้วยความเร็วไม่ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซึ่งเป็นรายละเอียดคดี ตั้งแต่ปี 2555 จนปี 2560 มีการสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญและพยานที่ให้ข้อมูลว่ารถเฟอร์รารีคันก่อเหตุขับด้วยความเร็วไม่ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กระทั่งปลายปี 2562 มีพยานอีก 2 ปาก ออกมาให้การอ้างว่า เห็นความเร็วและเหตุการณ์ขณะรถจักรยานยนต์ตัดหน้า
จนช่วงท้ายในคำสั่งมีการสรุปออกมาข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า “รถทั้งสองคันได้รับความเสียหาย เมื่อเหตุที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้ต้องหาที่ 2 (ดาบตำรวจวิเชียร) ขับขี่รถจักรยานยนต์เปลี่ยนช่องทางเดินรถ เข้าไปในช่องทางเดินรถที่ผู้ต้องหาที่ 1 (นายวรยุทธ) ขับขี่มาด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะกระชั้นชิด ทำให้ผู้ต้องหาที่ 1 (นายวรยุทธ) ไม่สามารถหลบหลีกและหยุดรถได้ทันท่วงที เหตุที่เกิดขึ้นจึงเป็นเหตุสุดวิสัย มิใช่เกิดจากความประมาท ปราศจากความระมัดระวังของผู้ต้องหาที่ 1 (นายวรยุทธ) แต่เกิดจากความประมาท ปราศจากความระมัดระวังของผู้ต้องหาที่ 2 (ดาบตำรวจวิเชียร) ที่เปลี่ยนช่องทางเดินรถในระยะกระชั้นชิด”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อดีตเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานในคดีดังกล่าว ได้ออกมาอธิบายถึงการตั้งปมประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการคำนวณความเร็วรถยนต์ เฟอร์รารีของนายวรยุทธ ตามเอกสารคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการคดี “บอส อยู่วิทยา”
โดย พ.ต.ต.ชวลิต ได้เผยแพร่การคำนวณอัตรารถยนต์ของนายบอส แบบที่ได้ค่าไม่เกิน 80 กม./ชม. กับแบบที่ได้คาร้อยกว่าๆ กม./ชม.
ตามการคำนวณของ รศ.สายประสิทธิ์
ที่เค้าเขียนว่า เฟรมที่ 651 กับ 675
ซึ่งต่างกันถึง 24 เฟรม
แต่ความเป็นจริง ใน 24 เฟรมนี้ มันก็คือ ภาพเหมือนกันที่รถไม่ขยับ 4 ภาพ แล้วถัดไปค่อยเป็นภาพที่รถขยับ ซ้ำกัน 4 ภาพ แล้วถัดไปค่อยเป็นภาพที่รถขยับ ซ้ำกัน 4 ภาพ
…
รวมทั้งหมด 24 ภาพ แต่ภาพของรถทั้งหมดตั้งแต่ 651 ถึง 675 จะขยับแค่ 6 ครั้งเท่านั้นนะครับ
4 ภาพสุดท้าย ก็คือภาพซ้ำกันจะเห็นว่ารูปของ รศ.สายประสิทธิ์ เฟรมที่ 675 กับ 677 เป็นรูปเดียวกัน คงจะพยายามเพิ่มความละเอียดให้กับไฟล์จากทีแรกมีเฟรมเรท 25 อยากเพิ่มให้เป็น 100
จากเดิมช่วงนี้จะมีภาพ 6 ภาพก็เพิ่มเป็น 24 ภาพให้มันละเอียดขึ้น แต่หารู้ไม่ เฟรมเรท ต้นฉบับที่เท่ากับ 25 นี่คือความละเอียดที่สุดแล้ว หากจะเพิ่มเฟรมเรท ก็จะเป็นการสร้างภาพซ้ำจากภาพต้นฉบับขึ้นมา ไร้ประโยชน์สิ้นดี ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร…
ของต้นฉบับ เฟรมเรท 25 ภาพเริ่มต้นตั้งแต่มุมหน้าขวาของรถอยู่ที่ต้นไม้เส้นสีแดง
ไปสุดที่ภาพมุมหลังซ้ายของรถอยู่ที่ต้นไม้เส้นสีแดง 2 จุดนี้ ห่างกัน 6 เฟรม
ใช้เวลา 6/25 = 0.24 วินาที
แต่หากทำเฟรมเรทให้เป็น 100 ภาพ อย่างของ รศ.สายประสิทธิ์ เริ่มตั้งแต่มุมหน้าขวาของรถอยู่ที่ต้นไม้เส้นสีแดง ไปสุดที่ภาพมุมหลังซ้ายของรถอยู่ที่ต้นไม้เส้นสีแดง 2 จุดนี้ ห่างกัน 24 เฟรม ใช้เวลา 24/100 = 0.24 วินาที เวลา 0.24 เท่ากัน
เวลาไม่ได้ผิด (แต่มั่วเล็กน้อย ตรงที่ความจริงไม่ว่าจะให้สิ้นสุดที่เฟรมที่ 675 หรือ 677 ก็ต้องใช้เวลาเท่ากัน เนื่องจาก 675 กับ 677 มันเป็นภาพเดียวกัน ไม่ใช่ว่าถ้าให้สุดที่ 675 จะได้เวลา 0.24 วินาที ถ้าให้สุดที่ 677 จะได้เวลา 0.26 วินาที )
แต่ถือว่า ความผิดพลาดเรื่องเวลานี้ มีผลไม่มาก
ตัวที่ส่งผล ให้ผลลัพธ์ผิด จากความเป็นจริง ความเร็ว เกิน 100 ผิดมาเหลือไม่เกิน 80
คือ การใช้ มุมหน้าขวาของรถ และมุมหลังซ้ายของรถ เป็นจุดเริ่มต้น และสิ้นสุด
ถึงแม้ การเอาค่าเส้นผ่านศูนย์กลางมา จะทำให้ระยะทางผิดไปแบบเพิ่มขึ้นกว่าเดิม จากที่ควรจะเป็นคือความยาวหน้า-หลัง 4.907 เมตร ผิดไปเป็น 5.281 เมตร แต่ทำให้เวลา ผิดไปโดยช้ากว่าเดิมถึง 2 เท่า ด้วย คือจากที่ควรจะเป็น คือ 0.12 วินาที กลับเอาเวลาที่ผิด 0.24 วินาที
มาคำนวณ จึงทำให้ผลลัพธ์ออกมาผิด กลายเป็นไม่ถึง 80 กม./ชม.
ทั้งนี้ ยังได้ระบุว่า การแทนค่าระยะทาง ดังกล่าวเป็นแบบแนวทแยงมุม ซึ่งความจริงแล้วรถยนต์ไม่ได้เคลื่อนที่ในแนวทแยงมุม ค่าที่ได้จะไม่สามารถใช้เป็นอัตราเร็วได้
