อาจารย์ภาควิชาเคมี ม.เกษตร ชี้ ‘โคเคน’ ในงานทันตกรรม ใช้เป็น ‘ยาชา’ ต่างจากโคเคนเสพร่วมแอลกอฮอล์

สืบเนื่องกรณี เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่รัฐสภา ซึ่งมีการประชุมคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร มีนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยเชิญ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.สมชาย พัชรอินโต ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี มาให้ข้อมูลต่อกมธ. กรณีไม่แย้งคำสั่งอัยการที่ไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ที่ขับรถชนตำรวจสน.ทองหล่อ เมื่อปี 2555 ภายหลังการประชุม นายนิโรธ แถลงว่า กมธ.สอบถามตำรวจหลายประเด็น โดยกรณีไม่สามารถเอาผิด ข้อหาเมาแล้วขับนายวรยุทธ โดยนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย โฆษกกมธ.ตำรวจ กล่าวว่า เรื่องสารเสพติดโคเคนที่พบในตัวผู้ต้องหานั้น พนักงานสอบสวนให้ข้อมูลว่า ได้รับการยืนยันจาก หมอฟันว่าสารที่ตรวจพบในร่างกายนายวรยุทธเป็นยาที่ให้ผู้ต้องหาในการรักษาฟันที่มีส่วนผสมของสารโคเคนอยู่ ทำให้ไม่สั่งฟ้องเรื่องสารเสพติด (อ่านข่าว ตร.แจงกมธ.เอาผิดเมาแล้วขับ“บอส” ไม่ได้ หมอฟัน ยันแค่ยาผสมโคเคนใช้ “รักษาฟัน”)

ต่อมาในวันเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า Cocaethylene ที่ตรวจพบในเลือด เกิดจากการเสพโคเคนร่วมกับแอลกอฮอล์ ไม่เกี่ยวกับโคเคนรักษาฟัน และโคเคนที่ใช้เป็นยาชาเฉพาะที่ในงานทันตกรรมคือ Lidocaine หรือที่เรียกว่า lignocaine หมอใช้ปริมาณน้อย ต่างจากตัวที่ตรวจพบในเลือด

 

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image