‘ปัตตานี’แถลงจับโจรกระชากกระเป๋า ทำเหยื่อตกรถดับ มีหมายจับ 4คดี อ้างตกงานหาเงินเลี้ยงลูก

ตำรวจ สภ.ปัตตานี แถลงข่าวจับโจรกระชากกระเป๋า ทำเหยื่อตกรถเสียชีวิต ตรวจสอบประวัติพบก่อเหตุมาแล้ว 4 อำเภอ มีหมายจับ 4 คดี หลังถูกจับสารภาพว่า อ้างตกงานก่อเหตุเพื่อหาเงินเลี้ยงลูก

เมื่อเวลา 13.30น. วันที่ 3 สิงหาคม ที่ สภ.เมืองปัตตานี นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รอง ผวจ.ปัตตานี พล.ต.ต.จีรวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี พ.ท.ภาคภูมิ จันทรักษ์ ผบ.ฉก.ปัตตานี 25 พร้อมชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายภาคภูมิ เงาะ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีวิ่งราวทรัพย์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายปัตตานี-ยะลา ต.บาราเฮาะ อ.เมืองปัตตานี

โดยคดีดังกล่าว ขณะที่ น.ส.อาดีละห์ เวาะหลง อายุ 20 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ทะเบียน กฒ 4794 ปัตตานี มีนางยูวีตา เวาะหลง อายุ 45 ปี นั่งซ้อนท้าย ทั้งสองเป็นแม่ลูกกัน กำลังเดินทางเข้าตัวเมืองปัตตานี เมื่อถึงที่เกิดเหตุ นายภาคภูมิผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำแดง ทะเบียน ข-8158 ยะลา แต่ในวันก่อเหตุไม่ติดป้ายทะเบียน ขับตามหลัง ก่อนขับประชิดด้านซ้ายแล้วกระชากกระเป๋าอย่างแรงหวังชิงทรัพย์ ทำให้นางอาดีละห์ตกจากรถ ศีรษะฟาดถนนอย่างรุนแรงได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลปัตตานี ส่วนคนร้ายหลบหนีไป เหตุการณ์ครั้งนี้ สร้างความสะเทือนขวัญต่อประชาชนอย่างมาก หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฏว่าคนร้ายคือ นายภาคภูมิ ได้ก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่หลายคดี ทำให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการก่อเหตุแต่ละจุดมีพยานหลักฐาน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่มัดตัวคนร้ายอย่างชัดเจน นำไปสู่การขออนุมัติศาลจังหวัดปัตตานี ออกหมายจับ และสามารถจับกุมตัวพร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุได้ในที่สุด

Advertisement

พล.ต.ต.จีรวัฒน์เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนสอบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ จากกล้องวงจรปิดทั้งหมด สืบค้นเบาะแสจนรู้ตัวคนร้าย โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่คนร้ายก่อเหตุกระชากกระเป๋า เป็นเหตุให้นางยูวีดาที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เสียชีวิต เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากการสืบสวนสอบสวนขยายผล ทราบว่าคนร้ายมีรูปพรรณตรงกับหลักฐานจากกล้องวงจรปิดขณะก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านโทรศัพท์ใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา รวมถึงพยานบุคคลยืนยันตรงกันว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกันที่ก่อเหตุชิงโทรศัพท์มือถือ 2 เหตุใน อ.โคกโพธิ์ ในวันเดียวกันหลังก่อเหตุกระชากกระเป๋าในพื้นที่ อ.เมือง เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา

“เมื่อตรวจสอบ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนปรากฏว่าเป็นคันเดียวกันที่ใช้ก่อเหตุ จึงตรวจสอบรถจนทราบว่าเจ้าของรถจักรยานยนต์เป็นของภรรยาของนายภาคภูมิ ผู้ก่อเหตุหลบไปอาศัยที่บ้านภรรยาที่บ้านเลขที่ 129/1 หมู่ที่ 5 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา ภายหลังรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุทั้ง 4 อำเภอจึงได้เรียกชุดสืบสวนสอบสวนมาประชุมสรุปคดี จนกระทั่งสามารถขออนุมัติศาล จ.ปัตตานี ออกหมายจับนายภาคภูมิผู้ต้องหาที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ อ.หนองจิก เป็นคดีแรก ก่อนที่จะรวบรวมหลักฐานออกหมายจับอีกถึง 4 คดี
สำหรับวัตถุหลักฐานในการก่อเหตุ ตรงกับในกล้องวงจรปิด คือ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเซฟ 110 สีดำแดงทะเบียนป้ายแดง ข-8158 ยะลา 1 คัน แว่นตา เสื้อยืดคอกลมสีฟ้า กางเกงยีนส์ขายาวพร้อมเข็มขัด รองเท้าแตะ 1 คู่ และหมวกกันน็อก 1 ใบ

เจ้าหน้าที่ต้องขอโทษผู้เสียหายทุกรายที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยได้ทุกราย แต่พยายามเต็มที่ให้ดีที่สุดเพื่อจับคนร้ายให้ได้ เจ้าหน้าที่เองได้แจ้งเตือนให้ทุกคนอย่าประมาท อยากให้ประชาชนระมัดระวังมากขึ้น อย่านำทรัพย์สินของมีค่าติดตัว ห้ามวางไว้ตะกร้าหน้ารถ จะเป็นเหตุให้คนร้ายที่จ้องดูอยู่ ก่อเหตุปล้นชิงได้ หากมีผู้เสียหายรายใดจะชี้ตัวยืนยันคนร้ายในคดีเดียวกัน ขอให้มาแจ้งความที่โรงพักพื้นที่เกิดเหตุได้ จากการสอบปากคำนายภาคภูมิ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาทุกคดี โดยรับว่าก่อเหตุเนื่องจากตกงาน ต้องหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวและลูกอีก 2 คน หลังจากนี้จะประสานพื้นที่ จ.ยะลา และนราธิวาส เพื่อตรวจสอบผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุในพื้นที่หรือไม่” พล.ต.ต.จีรวัฒน์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image