รมว.ยธ.-รองผบ.ชปส.-ป.ป.ส.โชว์ยึดทรัพย์เครือข่ายค้ายากว่า 1,599 ล้าน ทะลุเป้า

รมว. ยธ.-รองผบ.ชปส.-ป.ป.ส.โชว์ยึดทรัพย์เครือข่ายค้ายากว่า 1,599 ล้าน ทะลุเป้า

รมว.ยุติธรรม – รอง ผบ.ชปส. -ป.ป.ส. โชว์ผลงาน เม.ย –  ก.ค. ตัดวงจรเส้นทาง 108 เครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศ  ยึดทรัพย์กว่า 1,599.75 ล้าน ทะลุเป้าหมาย

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 7 ส.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. และผู้แทนหน่วยงานภาคีร่วมกันแถลงผลงานบูรณาการยึดทรัพย์สินตัดเส้นทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด มูลค่ากว่า 1,599.75 ล้านบาท

นายสมศักดิ์  กล่าวว่า ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ได้เดินหน้าตัดวงจรค้ายาเสพติดตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เน้นการสืบสวนสอบสวนทางการเงินเพื่อขยายผลไปสู่การยึดทรัพย์สิน

เพื่อให้ปัญหายาเสพติดหมดไปจากประเทศไทย ซึ่งตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงปัจจุบัน สามารถทำลายเครือข่ายทั้งประเทศได้ 108 เครือข่าย มูลค่ากว่า 1,599.75 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้

Advertisement

เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะยึดทรัพย์ให้ได้ 1,500 ล้านบาทในปีงบประมาณนี้ และเวลานี้ ยังมีเวลาอีกเดือนครึ่ง ตนเองอาจจะแถลงอีกครั้ง ส่วนตัวมั่นใจว่าการยึดทรัพย์ 1,500 ล้านบาทที่ตั้งไว้ ยังน้อยเกินไป เพราะเพียงแค่ 10 เดือนกว่าในปีงบประมาณนี้ ก็สามารถยึดเครือข่ายรวม 1,599.75 ล้านบาทแล้ว

“ผมจะให้โอกาสดีเอสไอแถลงอีกครั้งหนึ่ง มั่นใจว่า ตัวเลขยึดทรัพย์ที่จะแถลง จะทำให้มากกว่า 1,500 ล้านบาท ปีนี้ เราทำได้อย่างจริงจังในช่วงท้าย เพราะเรามีการปรับเปลี่ยนวิธีการและดำเนินการ จากที่ตั้งเป้าไว้ 1,500 ล้านบาท ก็ได้เรียบร้อย ถ้าแถลงอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ ก็น่าจะเพิ่มมากกว่านี้” นายสมศักดิ์ กล่าว

 

ด้าน พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยว่า สำหรับผลการปฏิบัติการสืบสวน สอบสวน ขยายผล ยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ห้วงเดือน ก.ค. 63 ตามคำสั่ง ศอ.ปส.ที่ 7/2563 ดำเนินการจับกุม 2 เครือข่ายเสพติดใหญ่ โดยกลุ่มแรกเป็นการทำลายเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศได้ 55 เครือข่าย 91 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ 187 คน ของกลางยาบ้า 3,757,280 เม็ด ไอซ์ 1,454 กิโลกรัม เฮโรอีน 8.4 กิโลกรัม คีตามีน 3.6 กิโลกรัม กัญชา 2,092 กิโลกรัม รวมยึดทรัพย์สินทั้งหมด 543 รายการ มูลค่า 251 ล้านบาท

พล.ต.ต.พรชัย ยังกล่าวอีกว่า ส่วนเครือข่ายที่ 2 ภายใต้ปฏิบัติการยุทธการสยบไพรี 63/16 “ยุทธการทลายขุมทรัพย์ จับแก๊งยานรก” ดำเนินการยึดทรัพย์เครือข่ายชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดน จ.เชียงใหม่ ที่เป็นเครือญาติและกลุ่มค้ายาเสพติดรายสำคัญ ติดต่อลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแหล่งผลิตจากพื้นที่ชายแดนมายังภาคกลาง ภาคใต้ และประเทศที่ 3

โดยเปิดธุรกิจค้าเสื้อผ้า ร้านขายของที่ระลึกบังหน้า เพื่อแปรสภาพทรัพย์สินให้กลุ่มเครือญาติ ยึดอาคารพาณิชย์ 5 คูหา จ.เชียงใหม่ มูลค่า 50,000,000 บาท บ้านอีก 24 หลัง ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.กรุงเทพฯ และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 97,000,000 บาท โฉนดที่ดิน 12 แปลง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ มูลค่า 39,600,000 บาท รวมทั้ง รถยนต์ 22 คัน และจักรยานยนต์ 27 คัน รวมมูลค่า 15,985,000 บาท

พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.
พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.

อายัดบัญชีตรวจสอบ 52 บัญชี พร้อมบัตรกดเงินสด 5 รายการ รวมยึดทรัพย์สินทั้งหมด 147 รายการ มูลค่า 202 ล้านบาท โดยสรุปผลการปฏิบัติ เดือน ก.ค. สามารถทำลายเครือข่ายยาเสพติดได้ทั้งสิ้น 56 เครือข่าย หมายจับ 58 หมาย หมายค้น 67 หมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ 191 คน และยึดทรัพย์ได้ทั้งสิ้น 690 รายการ มูลค่า 454 ล้านบาท

ด้าน นายนิยม กล่าวว่า  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมอบนโยบายมา 3 ประเด็น คือ ประเด็นที่หนึ่ง เรื่องการบูรณาการการปฏิบัติ ทั้งการดำเนินการด้านการปฏิบัติการ การใช้เครื่องมือทางกฏหมาย การปฎิบัติการเรื่องข้อมูลหรือเทคโนโลยีที่แต่ละหน่วยงานมีอยู่ ผลการดำเนินงานนั้นมีความคืบหน้า ประเด็นที่สอง เรื่องการปรับกระบวนการทำงาน ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมเชิงปฏิบัติการไปแล้ว 2 ครั้ง เพื่อที่จะปรับแนวทางการทำงานร่วมกัน เพื่อให้การทำงานมีความกระชับและเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และประเด็นที่สาม การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ประโยชน์ได้แก่ การจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จะใช้เสริมในการสืบสวนสอบสวนให้เกิดประสิทธิภาพในการยึดทรัพย์และการฝากเงินให้ได้มากขึ้น

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส.
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส.

นายนิยม ยังกล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน ให้ สำนักงาน ป.ป.ส.หารือกับทาง กลต.เพื่อป้องกันและปราบปรามการนำเงินสดสกุลดิจิตอลเข้ามาสู่กระบวนการค้าในตลาดหลักทรัพย์และการฟอกเงิน ซึ่งทาง กลต.จะดำเนินการจัดทำแผนผังเพื่อที่จะดูว่าการใช้เงินสกุลดิจิตอลสำหรับการฝากเงินจะทำอย่างไรและจะป้องกันอย่างไร ส่วนการพัฒนาองค์ความรู้ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เชื่อว่า การดำเนินการปราบปรามและตัดวงจรการค้ายาเสพติดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image