เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (รอง ผบก.น.2) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสืบสวนข้อเท็จจริง คดีการตรวจยึดรถจำนำจำนวน 204 คัน เปิดเผยความคืบหน้าในคดีว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวนสามารถตรวจสอบความถูกต้องการถือครองรถของกลางที่มีการตรวจยึดได้ทั้งหมด 204 คันแล้ว โดยแบ่งกลุ่มรถยนต์ทั้งหมดออกเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วยรถของบุคลธรรมดา ไม่ติดไฟเเนนซ์ , กลุ่มรถของไฟเเนนซ์ที่ฟ้องศาลก่อนศาลจะมีคำสั่งให้คืนรถเเก่ไฟเเนนซ์ , กลุ่มผู้ครอบครองที่อ้างว่าเป็นเจ้าของ , กลุ่มค้างค่างวดไฟเเนนซ์ 1-3 เดือน และกลุ่มค้างไฟเเนนซ์เกิน 4 เดือนขึ้นไป ขณะนี้ได้คืนรถเเก่เจ้าของกรรมสิทธิ์ไปแล้ว 22 คัน เป็นรถในส่วนของกลุ่มผู้ครอบครองรถในกลุ่มแรก ขณะที่อีก 182 คัน ยังไม่สามารถคืนรถให้กับผู้ครอบครองได้เนื่องจากยังคงมีการอ้างสิทธิ์ การครอบครองรถของกลุ่มบุคคล 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มบริษัทไฟแนนซ์ กลุ่มผู้เช่าซื้อ และกลุ่มคนที่รับซื้อขายหรือจำนำรถ อย่างไรก็ตาม ยังมีรถอีก 9 คันที่ศาลมีคำสั่งให้คืนแก่ไฟแนนซ์ โดยล่าสุดสั่งการไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อทำหนังสือแจ้งไปยังกรมบังคับคดี หารือว่าทางกรมบังคับคดีจะมาร่วมส่งมอบด้วย หรือให้ทางตำรวจมีอำนาจปฏิบัติตามคำสั่งศาลได้เลย และก่อนหน้านี้ทางไฟแนนซ์มาแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่นำรถมาจำนำเพิ่มเติมประมาณ 100 คัน ตำรวจได้รับเรื่องไว้ อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบุคคลเหล่านี้จะเข้าข่ายกระทำความผิดด้วยหรือไม่
ด้าน พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 กล่าวว่า ล่าสุดตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณี ร.ต.อ.ทวี หมื่นรักษ์ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ยิงตัวตาย เบื้องต้นจะทราบผลการตรวจสอบทั้งหมดภายในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ ก่อนจะเสนอ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รรท.ผบช.น.)พิจารณาต่อไป เเต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากความเครียดเรื่องงานสอบสวนจากหลายฝ่ายจึงทำให้เกิดเหตุสลดขึ้น ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ระบุว่ามีตำรวจชั้นผู้ใหญ่กดดันการทำงานของคณะทำงานคดียึดรถจำนำ 204 คันนั้น ยังไม่ทราบเรื่องและยังไม่มีข้อมูลแต่อย่างใด