ดีเอสไอแจงคลิปจับเมธี อดีตดาราดัง ชี้ส่งอัยการฟ้องแล้ว คดีฉกอาวุธทหารเหตุชุมนุมปี’52

ดีเอสไอแจงคลิปจับเมธี อดีตดาราดัง ชี้ส่งอัยการฟ้องแล้ว คดีฉกอาวุธทหารเหตุชุมนุมปี’52

จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทางเฟซบุ๊ก (Facebook) ซึ่งมีข้อความบรรยายคลิปวิดีโอดังกล่าวว่า “หวิดวางมวย วินาที DSI บุกจับ แต่ไม่มีหมายจับ” YouTube ซึ่งมีข้อความบรรยายคลิปวิดีโอว่า “หวิดวางมวย ตร.บุกจับเมธี อดีตดารา” นั้น

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นคลิปเหตุการณ์เก่า เนื่องจากคดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนได้จับกุม นายเมธี อมรวุฒิกุล หรือนายณชิต อำนาจเดชานนท์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีตามหมายจับ และนำตัวส่งฟ้องอัยการไปแล้วเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา

พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ และได้นำสำเนาหมายจับของศาลที่รับโทรสารจากพนักงานสอบสวน จับกุมนายเมธี อมรวุฒิกุล หรือนายณชิต อำนาจเดชานนท์ ผู้ต้องหา ซึ่งคดีดังกล่าวนั้นดีเอสไอได้รับการกระทำความผิดทางอาญา กรณีก่อการร้าย การขู่บังคับให้รัฐบาลกระทำการใดๆ การทำร้ายประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกระทำต่ออาวุธยุทธภัณฑ์ของทางราชการ

อันเกี่ยวกับการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในช่วงปลายปี พ.ศ.2552 เป็นต้นไปในราชอาณาจักร รวมถึงความผิดที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกัน เป็นคดีพิเศษ ต่อมา ได้มีการแยกเลขคดีออกมาดำเนินการ โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับการลักเอาอาวุธและยุทโธปกรณ์ของกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 19 เป็นคดีพิเศษ
ที่ 68/2553

Advertisement

จากนั้น เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2553 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งสำนวนคดีพิเศษที่ 68/2553 พร้อมตัวผู้ต้องหาไปยังสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาสองราย

ต่อมา พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง นายเมธี อมรวุฒิกุล หรือนายณชิต อำนาจเดชานนท์ ผู้ต้องหาที่ 1 แต่เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงไม่มาพบพนักงานอัยการตามนัด พนักงานอัยการจึงมีหนังสือ ให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการเพื่อให้ได้ตัวมาฟ้องภายในอายุความ 10 ปี ต่อมาพนักงานอัยการมีหนังสือขอแก้ไขเป็นภายในอายุความ 20 ปี นับแต่วันที่ 10 เมษายน 2553 (ครบขาดอายุความ 10 เมษายน 2573) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงได้ยื่นคำร้องเพื่อขอออกหมายจับต่อศาลอาญา และเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ศาลอาญาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาตามคำร้อง ในความผิดฐานร่วมกันรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนที่เป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้พาอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และโดยไม่มีเหตุสมควร ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 8, มาตรา 8 ทวิ, มาตรา 55, มาตรา 78, มาตรา 72, มาตรา 72 ทวิ ประกอบประมวลกฎหมายอาญาแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 91 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 47/2563 โดยยื่นคำร้องต่อศาลขอแก้ไขอายุความเป็น 20 ปี ตามคำสั่งของพนักงานอัยการแล้ว และสำเนาให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษดำเนินการ

กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงขอชี้แจงต่อสาธารณชนว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษข้างต้น เป็นการดำเนินการจับกุมตามขั้นตอนของกฎหมาย และมีหมายจับของศาล รวมทั้งยังไม่ขาดอายุความตามที่กล่าวอ้าง

Advertisement

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้อธิบายข้อเท็จจริงให้ผู้ต้องหาทราบ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาติดต่อทนายความด้วยตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว กรณีดังกล่าวอาจเกิดจากการไม่เข้าใจขั้นตอนในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ประสานงานเพื่ออธิบายให้ผู้ต้องหาทราบเพิ่มเติมต่อไป และผู้ต้องหายังมีสิทธิที่จะต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนตามกระบวนการของกฎหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image