เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. และ รรท. ผบก.น.1 และพ.ต.ต.สยมภู กลุจิตติสิโรดม สวป.สน.บางซื่อ ร่วมกันแถลงจับกุมนายพุฒิพงษ์ ลูกแก้ว อายุ 19 ปี ชาวจ.สกลนคร นายอั้ม (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และนายเติ้ล (นามสมมติ) อายุ18 ปี ชาวจ.ระนอง พร้อมของกลางอาวุธมีด 2 เล่ม เงินสด 440 บาท โทรศัพท์ยี่ห้อออปโป้ 1 เครื่อง นาฬิกายี่ห้อจีช็อค 1 เรือน จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำทะเบียน 4กส 6434 โดยจับกุมได้ที่ บริเวณแยกวรรณสรณ์ สี่แยกพญาไท แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม.
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 30 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.ร.1 รอ. ถ.วิภาวดี แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. จึงรีบประสานไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและไปตรวจสอบขณะที่ตำรวจสายตรวจ สน.พญาไท เดินทางไปถึงบริเวณแยกวรรณสรณ์ สี่แยกพญาไท ได้พบกับนายตี๋ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และนายตุ้ม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้เสียหาย พร้อมกับนายพุฒิพงษ์ ผู้ต้องหา ในสภาพบาดเจ็บเล็กน้อยเนื่องจากรถจักรยานยนต์ล้ม ส่วนนายอั้ม ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้าจึงมีชาวบ้านนำตัวส่งไปรักษาตัวที่ รพ.รามาธิบดี ไปก่อนหน้านี้แล้ว จากการสอบสวนผู้เสียหายทั้ง 2 ยืนยันว่าระหว่างที่กำลังขับรถไปหาเพื่อน ได้แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มดังกล่าวก่อน หลังจากนั้นได้ขับรถออกมาจากปั๊มสวนกับคนร้ายทั้ง 2 คน ซึ่งคนร้ายได้เรียกให้หยุดจากนั้นใช้อาวุธมีดจี้บังคับให้ส่งทรัพย์สินของมีค่า ผู้เสียหายเกรงจะไม่ปลอดภัยจึงยื่นเงินจำนวน 440 บาท พร้อมกับนาฬิกาและโทรศัพท์ให้ไป หลังจากนั้นคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไปตาม ถ.วิภาวดี ผู้เสียหายจึงขับรถไล่ติดตามไปทางถนนพญาไท ถึงแยกวรรณสรณ์ รถของผู้ต้องหาเกิดเสียหลักล้มลงทำให้นายอั้ม ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้าก่อนถูกนำตัวส่ง รพ.รามาธิบดี ส่วนนายพุฒิพงษ์เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พญาไท จับได้พร้อมของกลาง ก่อนจะนำตัวไปให้ พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า จากการขยายผลนายอั้มรับว่าได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้อีกหนึ่งคดี ในท้องที่ สน.บางซื่อ โดยร่วมกับเพื่อนคือนายเติ้ลก่อเหตุชิงทรัพย์ที่บริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาลเปล่งประสิทธิ์ ซอยพหลโยธิน 8 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม เวลาประมาณ 16.20 น. โดยได้ทรัพย์สินของผู้เสียหายเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 5, โทรศัพท์ซัมซุง นาฬิกาข้อมือยี่ห้อจีช็อค 2 เรือน, เงินสด 130 บาทและหมวกกันน็อกยี่ห้อบิลโมล่า(Bilmola) โดยนำไปเก็บไว้ที่บ้านนายเติ้ล ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ภายในซอยอินทามระ 12 ถนนสุทธิสาร แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ทางตำรวจจึงไปจับกุมตัวนายเติ้ล สอบสวนยอมรับว่าได้ร่วมก่อเหตุชิงทรัพย์กับนายอั้มในวันดังกล่าวจริง
จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายอั้ม มีประวัติต้องคดีร่วมกันชิงทรัพย์และร่วมกันลักทรัพย์หลายคดีในท้องที่ สน.ท่าพระ, สน.พญาไท, สน.บางซื่อ และ สน.ปทุมวัน ในส่วนนายเติ้ล มีประวัติคดี ครอบครองยาเสพติด ท้องที่สน.บางซื่อ เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมาเช่นกัน
เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
