ตร.ขยับค่าปรับกลางทำผิดกม.จราจร ไม่พกใบขับขี่ ปรับไม่เกิน 1พันบาท

ผช.ผบ.ตร. ประชุมกำหนดค่าปรับจราจร จ่ายผ่านอิเล็กทรอนิกส์-ไปรษณีย์ ใช้ค่าปรับกลาง ส่วนชำระที่สถานีตำรวจตามดุลพินิจ ยกเว้นควันดำ ปรับเต็มอัตรา 1 พันบาท

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผู้ช่วย ผบ.ตร.) รับผิดชอบงานด้านการจราจรได้เปิดเผยถึงใบสั่งจราจรใหม่ และเกณฑ์กำหนดค่าปรับตามที่เปรียบเทียบฉบับใหม่ขึ้น ตามประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องกำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ.2563ตามที่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2562 ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 20 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา และมีการแก้ไขเพิ่มเติมหลักกฎหมายจราจรหลายประการ เช่น การยกเลิกการเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ขณะออกใบสั่ง ยกเลิกเรื่องการใช้ใบสั่งเป็นใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ ให้มีระบบตัดคะแนนความประพฤติ เพิ่มเติมช่องทางชำระค่าปรับให้ประชาชนสามารถชำระค่าปรับได้ที่สถานีตำรวจทุกท้องที่ ตลอดจนเพิ่มเติมเรื่องบทสันนิษฐานของเจ้าของรถ/ผู้ครอบครองรถ ที่เป็นบุคคลธรรมดา ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำผิดตามใบสั่ง และเพิ่มเติมเรื่องหน้าที่เจ้าของ/ผู้ครอบครองที่เป็นนิติบุคคล ว่ามีหน้าที่ต้องแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่าใครเป็นผู้ขับขี่ที่กระทำผิดตามใบสั่ง จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในแบบพิมพ์ใบสั่งใหม่ให้สอดคล้อง กับหลักกฎหมายจราจรที่แก้ไขข้างต้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มอบหมายให้ คณะทำงานพิจารณายกร่างและแก้ไขกฎหมายลำดับรองกฎหมายจราจร (ตามคำสั่ง ตร.ที่ 241/2562)

พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ สำหรับประกาศแบบใบสั่งใหม่ โดยแก้ไขข้อความในใบสั่งจำนวน 2 รูปแบบได้แก่

1.แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับให้กับผู้ขับขี่ ติด ผูก หรือแสดงไว้ที่รถ (ใบสั่งที่เจ้าพนักงานจราจรพบการกระทำผิดด้วยตนเอง และเขียนใบสั่งด้วยมือ)

2.แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับส่งทางไปรษณีย์ (ใบสั่งที่เจ้าพนักงานจราจรพบโดยใช้เครื่องอุปกรณ์ เช่น กล้อง) ทั้งนี้ ใบสั่งรูปแบบใหม่ จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป สำหรับใบสั่งแบบเดิม จะยังคงใช้ได้ต่อไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม

Advertisement

สำหรับประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบสำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 พ.ศ.2563 เกณฑ์การกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบสำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ เดิมมีประกาศฉบับปี พ.ศ.2559 บังคับใช้อยู่แล้ว เพื่อเป็นเกณฑ์ค่าปรับสำหรับวิธีการชำระค่าปรับด้วยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิต ผ่านธนาคารหรือหน่วยบริการรับชำระเงิน แต่เมื่อมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2562 และมีการเพิ่มเติมข้อหาความผิดบางข้อหา

ในกฎหมายใหม่ จึงจำเป็นต้องปรับปรุงเกณฑ์ค่าปรับให้สอดคล้องกับกฎหมายที่แก้ไข ได้แก่ มาตรา 31/1 “ในขณะขับรถในทางเดินรถ ผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวและไม่อาจแสดงต่อเจ้าพนักงานจราจรเมื่อขอตรวจ” (อัตราโทษตามกฎหมายปรับไม่เกิน 1,000 บาท)

ส่วนข้อหาความผิดอื่นยังคงกำหนดเกณฑ์ค่าปรับตามประกาศฉบับเมื่อปี พ.ศ.2559 ตามเดิม ซึ่งข้อหาส่วนใหญ่จะกำหนดเกณฑ์ค่าปรับ ในอัตราที่ต่ำกว่าค่าปรับขั้นสูงที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ เช่น พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ กำหนดโทษค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท ประกาศของ ตร.จะกำหนดเกณฑ์ค่าปรับที่ 500 บาท เป็นต้น

Advertisement

เกณฑ์การกำหนดค่าปรับตามที่เปรียบเทียบในประกาศนี้ มีวัตถุประสงค์ใช้เป็นเกณฑ์ค่าปรับ

1.สำหรับการชำระค่าปรับด้วยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิต ผ่านธนาคารหรือหน่วยบริการรับชำระเงินรวมถึง

2.สำหรับการชำระค่าปรับทางไปรษณีย์ (ธนาณัติหรือตั๋วแลกเงิน)

สำหรับการชำระค่าปรับที่สถานีตำรวจอื่นๆ ทุกท้องที่ (ยกเว้นสถานีตำรวจผู้ออกใบสั่ง ยังคงมีอำนาจว่ากล่าวตักเตือน หรือเปรียบเทียบปรับในอัตราที่ต่างจากประกาศฉบับนี้ได้ แต่ต้องไม่เกินอัตราโทษปรับที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ )

ตัวอย่างข้อหาสำคัญ ได้แก่ ข้อหา ไม่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวหรือไม่อาจแสดงต่อเจ้าพนักงานเมื่อขอตรวจ (เพิ่มใหม่ ตาม ม.31/1) เกณฑ์ค่าปรับ 200 บาท ปรับไม่เกิน 1,000 บาท ไม่สวมหมวกนิรภัย เกณฑ์ค่าปรับ 400 บาท ปรับไม่เกิน 500 บาท จอดรถในที่ห้ามจอด เกณฑ์ค่าปรับ 400 บาท ปรับไม่เกิน 500 บาท ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด เกณฑ์ค่าปรับ 500 บาท ปรับไม่เกิน 1,000 บาท ฝ่าไฟแดง เกณฑ์ค่าปรับ 500 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท

ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรที่ปรากฏในทาง (เช่น Lane Change) เกณฑ์ค่าปรับ 500 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท ใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ เกณฑ์ค่าปรับ 500 ปรับตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท ใช้รถควันดำเกินกำหนด เกณฑ์ค่าปรับ 1,000 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท

ยกเว้นความผิดในข้อหาควันดำเกินกำหนด ที่ต้องเสียค่าปรับเต็มอัตราสูงสุด 1,000 บาท เนื่องจากเป็นปัญหากับสิ่งแวดล้อม รวมถึง แท็กซี่ทิ้งผู้โดยสาร หรือใช้เส้นทางอ้อมเกินควร ก็จะต้องเสียค่าปรับเต็มอัตราสูงสุด 1,000 บาทเช่นกัน เนื่องจาก กระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ

สำหรับเกณฑ์ค่าปรับตามประกาศฉบับนี้ เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม เป็นต้นไป และเรื่อง กำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ.2563 มีผลวันที่ 1 พฤศจิกายน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image