วันที่ 1 สิงหาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีชาวบ้านหลายรายเดินทางเข้าร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอำนาจเจริญ ว่าถูก บริษัท ศูนย์ อำนาจเจริญ เซ็นเตอร์กรุ๊ป ประเทศไทย บนเส้นบายพาส-เขรมราฐ ถนนอรุณประเสริฐ ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ส่งจดหมายไปให้ประชาชนตามหมู่บ้านต่างๆ โดยในจดหมายระบุว่า ชาวบ้านได้รับรางวัลเป็นเครื่องใช้ฟ้าชนิดต่างๆ ให้เดินทางมารับ พร้อมทั้งได้สิทธิจับสลาก โดยมีเงื่อนไขที่ผู้ได้รับรางวัลจะต้องเสียภาษีจำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ จากราคาสินค้าที่ตั้งไว้ พร้อมกับเงินสดอีกจำนวน 50,000 บาท คูปองส่วนลดในการแลกซื้อสินค้าอีกจำนวน 10,000 บาท แต่สินค้าที่ได้รับกลับเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ บางรายได้สินค้ายังไม่ครบตามที่ได้เสียภาษีไปแล้ว สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับชาวบ้าน จึงพากันมาเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม พร้อมทั้ง แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ
ต่อมาเมื่อช่วงเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.อรรถชัย ศังขวณิช รอง ผบก.ภ.จว. จึงได้นำกำเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร กกล.รส.จว.อำนาจเจริญ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จำนวน กว่า 20 นาย พร้อมผู้เสียหายจำนวนหนึ่งเดินทางไปที่บริษัทดังกล่าว พบเป็นตึกแถว 2 คูหา 2 ชั้น ซึ่งการติดสติ๊กเกอร์ปิดหน้าบ้านไว้จนมิดชน ทำให้บุคคลภายนอกไม่ให้สามารถมองเห็นเข้าไปในร้านได้ ภายในร้านมีการกั้นห้องไว้ด้วย 1 ห้อง ไม่มีสินค้าตั้งโชว์แต่อย่างใด มีเพียงกล่องเปล่าเท่านั้น
จากการบุกตรวจค้นไม่พบพนักงานในร้านหรือเจ้าของร้านแต่อย่างใด คาดว่าพนักงานและเจ้าของร้านจะไหวตัวหนีได้ทันก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง เนื่องจากเมื่อช่วงเช้าชาวบ้านทีอาศัยอยู่ใกล้เคียง ยังพบพนักงานอยู่ แต่ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึงพนักงานต่างก็พากันออกไปข้างนอกหมดแล้ว
พ.ต.อ.อรรถชัย เปิดเผยว่า บริษัทแห่งนี้มีวิธีการดำเนินการคือจะส่งจดหมายไปเกือบทุกครัวเรือนทั่วจังหวัดอำนาจเจริญ ว่าได้รับรางวัลเครื่องใช้ไฟฟ้าฟรี เมื่อชาวบ้านหลงเชื่อมาที่สำนักงาน พนักงานก็จะมีวิธีการหว่านล้อมต่างๆ นานา ให้จับสลากชิงรางวัลเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาแพงฟรี ทั้งเครื่องซักผ้า ตู้เย็น ไมโครเวฟ ทองคำหนัก 1 สลึง ฯลฯ แต่ไม่มีการนำสินค้ามาตั้งโชว์ให้ชาวบ้านเห็นแต่อย่างใด มีเพียงแค่เครื่องเสียงที่ตั้งโชว์ไว้ที่ราคา 79,800 บาท แต่ราคาจริงเพียงไม่ถึง 3,000 บาท เมื่อลูกค้าจับได้ก็จะต้องเสียภาษีเองเป็นจำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ รวมเป็นเงิน 23,940 บาท ซึ่งล่าสุดมีผู้เสียหาย ถูกหว่านล้อมจนเสียเงินไปกว่า 30,000 แต่ของได้ที่รับมาก็ยังไม่ครบ ขาดทีวีสี 32 นิ้ว พอจะมารับก็ปิดบ้านหนีไปแล้ว
พ.ต.อ.อรรถชัย เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า วิธีการก็จะมีการหว่านล้อมจูงใจต่างๆ นานา ให้ชาวบ้านหลงเชื่อ แต่เมื่อนำกลับไปบ้านกลับมาใช้งานได้ไม่สมราคา เมื่อชาวบ้านมาขอคืนสินค้าก็ได้รับการปฏิเสธ ถือเป็นการหลอกหลวงชาวบ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบใบจดทะเบียนพาณิชย์ร้านค้าดังกล่าว และสัญญาเช่าซื้อห้องแถวว่าเป็นบุคคลใด เพื่อออกหมายเรียกมาสอบสวนว่ามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้อยากฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อหากมีกรณีที่มีคนส่งจดหมายว่าท่านเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัล เพราะอาจจะทำให้ท่านเกิดความเสียหายขึ้นได้
