ลูกจ้างพม่าร้อง ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นจนท.อุ้มรีดไถ่เงิน 1.2 แสนบาทแลกปล่อยตัว

วันที่ 1 สิงหาคม 2559 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่สภ.เมืองภูเก็ต นาย วินัย นามสมมุติ อายุ 42 ปี พานายเอ นามสมมุติ อายุ 40 ปี ลูกจ้างชาวเมียนม่าร์เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับร.ต.อ.ไกรสร ภาคอารีย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4-5 คนควบคุมตัวขึ้นรถกระบะโตโยต้าวีโก้สี่ประตู สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนออกไปจากบริเวณศาลาประชาคมภูเก็ต ถ.ปะเหลียน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ตเมื่อช่วงสายวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นายเอเดินทางไปต่อทะเบียนเเรงงานประจำปี
จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ขู่บังคับและค้นหาทรัพย์สินภายในตัว ก่อนจะยึดบัตรเอทีเอ็ม ธ.ไทยพาณิชย์และโทรศัพท์มือถือไป แล้วได้พานายเอไปขึ้นรถกระบะขับออกจากศาลาประชาคมมุ่งหน้าไปจอดที่บริเวณใกล้สี่แยกเกาะสิเหร่ ถ.ปะเหลียน เพื่อรอรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนกว่า 30 นาที
ขณะที่รอรถเก๋งคันดังกล่าวอยู่นั้น กลุ่มชายฉกรรจ์ 3-4 คนที่อยู่ภายในรถได้ข่มขู่และเรียกเงินจำนวน 2 แสนบาท เพื่อแลกกับอิสรภาพและไม่ถูกจับกุมส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาทำงานผิดประเภทและจะไม่ถูกส่งตัวกลับประเทศ แต่นายเอปฏิเสธและอ้างว่าไม่มีเงิน
จนกระทั่งมีชายวัยกลางคนขับรถเก๋งโตโยต้าวีออสสีดำเข้ามาจอดเทียบรถกระบะ จากนั้นชายดังกล่าวได้เดินลงจากรถพร้อมกับเข้าค้นตัวและพานายหม่องขึ้นรถเก๋ง โดยนั่งที่เบาะด้านหน้าคู่กับคนขับ ซึ่งชายดังกล่าวถูกกลุ่มชายฉกรรจ์เรียกว่า “นาย” และได้พานายเอไปบ้านพักที่ในพื้นที่ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อดูลาดเลาบ้านพักของนายเอ ซึ่งเป็นบ้านเช่า ก่อนจะพานายเอไปจอดที่บริเวณปั้มน้ำมัน ปตท.สาขา ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ตเเละบังคับให้บอกรหัสเอทีเอ็มและชายฉกรรจ์ได้ลงไปกดเงินที่ตู้ของ ธ.ไทยพาณิชย์พร้อมกับโทรศัพท์พูดคุยกับปลายสายที่อ้างว่าเป็น ผกก.ซึ่งมีการพูดคุยเกี่ยวกับการจับกุมนายเอไปดำเนินคดี-มีโทษจำคุกกี่ปี เพื่อเป็นการข่มขู่นายเอให้เกิดความกลัว
จากนั้นชายดังกล่าวได้ลงจากรถและเดินไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มจำนวน 6 ครั้ง รวมเป็นเงิน 120,000 บาท โดยเงินในบัญชีของนายเอยังคงมียอดเงินเหลืออีก 5 แสนบาท แต่ไม่สามารถทำรายการได้ เนื่องจากสามารถทำรายการตามยอดเงินได้จำกัด เมื่อได้เงินแล้วจึงนำตัวนายเอมาปล่อยไว้ที่บริเวณตลาดหน้าวัดนาคา ถ.อนุภาษมโนรมย์ ต.วิชิต อ.เมือง พร้อมสั่งกำชับและข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกกับใคร เมื่อนายวินัย ซึ่งเป็นนายจ้างทราบเรื่องจากพี่สาวนายเอ จึงพามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้นชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ตได้นำภาพและชื่อของบุคคลที่กลุ่มชายฉกรรจ์เรียกว่า นาย มาให้นายเอดูภาพและยืนยันตัวบุคคล โดยนายเอสามารถชี้ภาพและยืนยันได้ว่าชายในภาพคือ คนที่ขับรถเก๋งโตโยต้าวีออสสีดำจึงนำไปเป็นหลักฐานเตรียมสำนวนสอบสวน ซึ่งในเบื้องต้นพฤติการดังกล่าวเข้าข่ายความผิดร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวและร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ทำสำนวนเสนอต่อปปท.เพื่อพิจารณาความผิดตามทางวินัยต่อไป ส่วนคดีอาญาถ้าสอบสวนแล้วพบว่ามีมูลจะเสนอต่อพนักงานอัยการพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image