หน่วย ฉก.สงขลาสั่งไล่ล่า 4 คนร้าย ยิงปะทะที่เทพา

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563 ที่หน่วยเฉพาะกิจสงขลา ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา แถลงข่าวเหตุบังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อเหตุรุนแรง พื้นที่ อ.จะนะ และ อ.เทพา จ.สงขลา เจ้าหน้าที่วิสามัญคนร้าย 2 ราย เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2563

กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง 6 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน ไปยังแหล่งนัดพบบริเวณบ้านร้าง ชายหาดสะกอม หมู่ 4 ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา ได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อม และแสดงตัวเพื่อให้กลุ่มคนร้ายยอมมอบตัว แต่คนร้ายได้ใช้ความรุนแรงยิงใส่เจ้าหน้าที่ เป็นเหตุให้เกิดการยิงตอบโต้กันขึ้น คนร้ายเสียชีวิต 2 ราย คือ นายอุสมัน เจ๊ะมิงอายุ 39 ปี มีภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 122 หมู่ 6 บ้านห้วยปลิง ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา นายเจะอารง บาเฮง หรือ “เปาะจิ” อายุ 40 ปี ที่อยู่ปัจจุบันเลขที่ 157/3 บ้านลาลอง หมู่ 12 ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ผู้ต้องหาหมายจับ ป.วิอาญา

พล.ต.ศานติกล่าวว่า คนร้ายที่เหลือได้แยกย้ายกันหลบหนี ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทาง อ.จะนะ 2 คน ซึ่งหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ได้จัดชุดติดตาม ถึงบริเวณบ้านโคกม้า หมู่ 8 ต.บ้านนา อ.จะนะ คนร้ายได้เลี้ยวเข้าสวนยาง ทิ้งรถจักรยานยนต์ และทำการยิงใส่เจ้าหน้าที่ ก่อนจะหลบหนี ทราบชื่อ 1 คน คือ นายอัซมัน เปาะเล๊าะ

ส่วนอีก 1 คัน คนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทาง อ.เทพา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้ตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ตามเส้นทางที่คาดว่าจะใช้ คนร้ายได้หลบหนีไปยังมัสยิดบ้านป่าโยง หมู่ 7 ต.เทพา อ.เทพา จ.สงขลา คนร้ายได้จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ แล้วทำการยิงใส่เจ้าหน้าที่ ก่อนจะหลบหนีเข้าไปในพื้นที่สวนยางพาราด้านหลังมัสยิด คือ นายสุรินทร์ กาเส็ง อีกคนไม่ทราบชื่อ

Advertisement

จากการตรวจสอบหมายเลขทะเบียน เป็นรถที่แจ้งหาย เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2563 รถจักรยานยนต์ที่ตรวจพบที่บ้านร้าง จุดรวมพล ป้ายทะเบียน งทบ 614 สงขลา ป้ายจริง งทษ 544 สงขลา คนร้ายได้ดัดแปลงขูดเอาเลขเครื่องเดิมออก และเติมสีหมายเลขใหม่ ส่วนตัวรถนั้นเป็นรถที่แจ้งหาย เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563 เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบ พื้นที่บริเวณโดยรอบมัสยิดบ้านป่าโยง พบปืนพก 1 กระบอกและเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่งอยู่ในกระเป๋าสีน้ำตาล หลังมัสยิด แต่ไม่ตรวจพบบุคคลเป้าหมาย

พล.ต.ศานติกล่าวว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุที่ยังหลบหนี และขอความร่วมมือประชาชน อย่าตื่นตระหนก ขอให้มีความระมัดระวัง หากพบเห็นเบาะแส หรือบุคคลต้องสงสัย ขอให้แจ้งมายังสายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ที่หมายเลข 06-1173-2999 เจ้าหน้าที่ได้มีมาตรการเปิดแผนเชิงรุก ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาสร้างสถานการณ์ในพื้นที่

พล.ต.ศานติกล่าวว่า หน่วยได้มีการดำเนินการเข้าพบปะกลุ่มเครือญาติของผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อสร้างความเข้าใจให้นำผู้ที่ยังหลบหนีเข้ามามอบตัว และเข้ากระบวนการตามกฎหมาย แต่ไม่มีบุคคลใดที่จะแสดงตัว คนร้ายได้ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้ จนนำไปสู่การวิสามัญ

“กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าขอแสดงความเสียใจมายังญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย และไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ได้พยายามบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนักมาโดยตลอด แต่คนร้ายเลือกใช้ความรุนแรงในการตอบโต้จนทำเกิดความสูญเสีย”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image