เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. วันที่ 10 กันยายน 2563 ร.ต.อ.ชวลิต กิ้มเฉี้ยง พนักงานสอบสวน สภ.กันตัง รับแจ้งเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิต บริเวณหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนธานี ถนนกันตัง ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง หลังรับแจ้งได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย มูลนิธิกุศลสถานตรัง ไปยังที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ทะเบียน กมร 198 ภูเก็ต สภาพรถได้รับความเสียหาย ช่วงท้ายรถถูกชนติดอยู่กับหน้ารถยนต์แวน สีขาว ทะเบียน นข-2404 ตรัง มีสภาพด้านหน้าซ้ายพังเสียหาย ซึ่งเป็นของเทศบาลเมืองกันตัง
โดยมีนายจิรภัทร คงสิน พนักงานเทศบาลเมืองกันตัง เป็นคนขับ ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตนอนกลางถนน เป็นชาย ทราบชื่อคือ นายภิญโญ อรรถรัฐ อายุ 84 ปี ไม่ทราบบ้านเลขที่ อยู่ที่ม.3 ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง นอนจมกองเลือดเสียชีวิต ผู้ตายไม่สวมหมวกนิรภัย จึงทำให้ศีรษะกระแทกผิวถนนอย่างแรง จนเสียชีวิต จากนั้นทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปยังโรงพยาบาลกันตังเพื่อทำการชันสูตรพลิกศพต่อไป
จากการสอบถาม นายจิรภัทร คงสิน พนักงานเทศบาลเมืองกันตัง คนขับรถยนต์เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.08 น. ตนเองได้โทรหาศูนย์นเรนทร ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองก็ได้ขับรถมาจากเทศบาลเมืองกันตัง มากับนายสรนนท์ จิโรจน์มนตรี นายกเทศมนตรีเมืองกันตัง เพื่อที่จะเดินไปประชุมที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขับมาในเลนของรถยนต์ชิดขวา
และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ นายภิญโญ อรรถรัฐ ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์อยู่เลนซ้ายสุด และได้เปลี่ยนเข้ามาเลนขวา ตนเองก็ได้บีบแตรแล้วแต่คุณตาก็ยังขับมาเลนขวา ตนเองก็เบี่ยงเข้าเกาะกลาง แต่คุณตาภิญโญ ก็ยังขับรถจักรยานยนต์เข้ามาหารถยนต์ที่ตนเองขับ และได้เบรกรถแต่ไม่ทัน จึงเกิดเหตุชนขึ้นดังกล่าว ผู้ตายไม่ได้สวมหมวกกันน็อคจึงทำให้ศีรษะฟาดผิวจราจรจนเสียชีวิตทันที
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายคือนายภิญโญ อรรถรัฐ คุณตาย วัย 84 ปี เป็นคนในพื้นที่ตำบลควนธานี ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้ขับมาจากบ้านพักเพื่อจะไปโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนธานี ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม และคาดว่าจะเปลี่ยนเลน เพื่อกลับรถ แต่อาจมองไม่เห็นรถยนต์ของเทศบาลเมืองกันตังที่ขับมาเลนขวา จึงทำให้เกิดอุบัติชนกันจนเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้เชิญตัวนายจิรภัทร คงสิน พนักงานเทศบาลเมืองกันตัง สอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.กันตัง พร้อมประสานญาติของนายภิญโญ อรรถรัฐ คุณตาวัย 84 ปี มารับศพเพื่อประกอบตามประเพณีศาสนาต่อไป