หมอเปรมพร้อมพวกต้องนอนเรือนจำอีกเป็นคืนที่สองในวันนี้ เนื่องจากศาลฏีกายังไม่มีคำสั่งลงมาว่าจะให้หมอเปรมพร้อมพวกกักขังตัวที่ไหน
สืบเนื่องจากกรณีที่ ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษา ของศาลฎีกา ระหว่างฝ่ายโจทก์ คือพนักงานอัยการ กับ นายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในฐานะโจทก์ร่วม กับ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จำเลยที่ 1 พร้อมพวก ในข้อหาข่มขืนใจ บังคับขู่เข็ญ และกระทำอนาจาร ซึ่งศาลฎีกาได้เปลี่ยนคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จากจำคุกจำเลยทั้ง 2 คนละ 2 เดือน เป็นกักขังคนละ 2 เดือน ศาลมีดุลยพินิจว่าจำเลยสำนึกผิด โดยได้นำเงิน 100,000 บาทมาวางต่อหน้าศาลเพื่อเยียวยาผู้เสียหาย อีกทั้ง จำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 10 กันยายน ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ยังไม่มีคำสั่งลงมาว่าจะอนุญาตให้หมอเปรมพร้อมพวกทำการกักขังตัวเองที่คลีนิกแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ ตามที่ทนายความหมอเปรมได้ยืนเรื่องขอได้หรือไม่ และขณะนี้ก็หมดเวลาทำการของศาลแล้ว จึงต้องให้หมอเปรมพร้อมพวกนอนค้างคืนในเรือนจำเป็นการชั่วคราวไปก่อนเป็นวันที่สอง จนกว่าศาลจะพิจารณาสถานที่กักขังหมอเปรมพร้อมพวกได้อย่างเป็นทางการ
สำหรับกรณีสถานที่กักขังตัวหมอเปรมพร้อมพวกเป็นเวลาสองเดือนตามคำสั่งของศาลฏีกานั้น ภายหลังจากศาลฏีกาได้อ่านคำพิพากษาแล้วเสร็จ นายเธียรชัย นนยะโส ทนายความของ นพ.เปรมศักดิ์ และ ร.ต.บัวทอง ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพลทันที เพื่อขอกักขังจำเลยทั้งในสถานที่ทำงานของ นพ.เปรมศักดิ์ คือคลีนิคแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพื่อใช้ประกอบวิชาชีพ แต่ศาลได้ยกคำร้อง เนื่องจากไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องกักขังในพื้นที่ดังกล่าว
ต่อมานายเธียรชัย นนยะโส ทนายความของหมอเปรม ก็ได้ยื่นขออุทธรณ์อีกครั้ง เพื่อให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาใหม่อีกครั้ง แต่เนื่องจากหมดเวลาการทำงานของศาลก่อน จึงไม่สามารถพิจารณาคำอุทธรณ์ของจำเลยได้ทัน ศาลจึงส่งตัวหมอเปรมเข้าไปทำการกักขังตัวที่เรือนจำกลางจังหวัดพลไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะหาสถานที่กักขังหมอเปรมพร้อมพวกได้อย่างเป็นทางการ
จนกระทั่งถึงเย็นวันนี้ ก็ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ว่าจะให้หมอเปรมพร้อมพวกถูกกักขังตัวไม่ ณ สถานที่ใด และได้หมดเวลาทำการของศาลแล้ว หมอเปรมพร้อมพวกจึงต้องนอนค้างคืนในเรือนจำอีกวันเป็นคืนที่สองในวันนี้
