วันที่ 3 สิงหาคม จากกรณี เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบสถานบริการ “บลูสตาร์ คาราโอเกะ” ถนนสุขใจ เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ และทำการล่อซื้อหญิงบริการชาวต่างด้าว อายุ 16 ปี จำนวน 1 ราย ดำเนินคดีข้อหาค้ามนุษย์ และมีหญิงบริการรวม 8 ราย เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ล่าสุด พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รอง ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ รักษาการ ผกก. สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ลงนามในคำสั่งให้ ผกก.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงอีก 4 นายไปช่วยราชการที่ตำรวจภูธรภาค 7 เป็นเวลา 30 วัน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะเดียวกัน ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวน สอบหาข้อเท็จจริงกรณีหญิงแรงงานชาวต่างด้าว ที่ถูกจับกุมในข้อหาค้ามนุษย์มีอายุ 16 ปี 3 เดือน แต่เอกสารหลักฐานบัตรสีชมพูแจ้งว่ามีอายุ 20 ปี ล่าสุดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบหาที่มาของการปลอมแปลงอายุในบัตรดังกล่าวว่ามีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร
พ.ต.อ.ฉัตรไชย กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ “NVADER” แจ้งว่าได้พบหญิงบริการดังกล่าวตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และทราบว่ามีการแก้ไขเอกสารอนุญาตการทำงานของแรงงานต่างด้าวโดยระบุว่าว่ามีอายุ 20 ปีนั้น เหตุใดเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนจึงไม่ดำเนินการสอบหาที่มาของการทำบัตรดังกล่าว ซึ่งกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทยจะต้องตรวจสอบหาที่มาของการปลอมแปลงเอกสารเนื่องจากผู้ต้องหายอมรับว่ามีการจ่ายเงินสินบน 6,500 บาทให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการจัดทำเอกสารเท็จของทางราชการ หลังจากพบว่าก่อนหน้านี้แรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุมดังกล่าวขออนุญาตทำบัตรที่ จ.สมุทรสาคร
“จากการตรวจสอบยังพบว่าในสมุดบัญชีการจ่ายผลประโยชน์ ระบุว่ามีการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงานและสื่อมวลชนบางรายนั้น มีพิรุธเนื่องจากเอกสารบางส่วนถูกฉีกหายไปจากสมุดบัญชีรายจ่าย ขณะที่การดำเนินการตรวจสอบสถานบริการนอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่แล้วยังมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอและระดับจังหวัดต้องดำเนินการตรวจสอบร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าการหน่วยงานที่จับกุมมีเจตนาดีที่จะแก้ไขปัญหากระบวนการค้ามนุษย์จริงหรือไม่ โดยเฉพาะการปลอมแปลงอายุของแรงงานต่างด้าว ซึ่งผู้แจ้งอาจมีเจตนาบิดเบือนหรือเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงานมีการทำเป็นขบวนการใหญ่เพื่อเรียกรับผลประโยชน์จากขบวนการค้ามนุษย์“ พ.ต.อ.ฉัตรไชย กล่าว
