ดีเอสไอ เผยพบหลักฐานเอกชน  ร่วมจนท.ออกเอกสารรุก พื้นที่ป่าสงวนฯบางขนุน

พ.ต.ท. กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ

ดีเอสไอ เผยพบหลักฐานเอกชน  ร่วมจนท.ออกเอกสารรุก พื้นที่ป่าสงวนฯบางขนุน กินพื้นที่วิทยาลัยนิคถลาง

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.ท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยภายหลัง การสั่งการให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงพื้นที่จ.ภูเก็ตตรวจสอบกรณีวิทยาลัยเทคนิคถลาง จังหวัดภูเก็ต มีหนังสือร้องทุกข์มายังดีเอสไอกรณีเอกชนบุกรุกพื้นที่วิทยาลัยกว่า 100 ไร่ โดยพื้นที่ดังกล่าว กรมอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา)ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ให้เข้าใช้ประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน

ตามประกาศกรมป่าไม้ เรื่อง กำหนดบริเวณพื้นที่ให้ส่วนราชการหรือองค์การของรัฐเข้าใช้ประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2540 ลงวันที่ 23 มกราคม 2540 เพื่อจัดตั้งวิทยาลัยเทคนิคภูเก็ตแห่งที่ 2 (วิทยาลัยเทคนิคถลาง) จำนวนเนื้อที่ 142 ไร่ 1 งาน 17 ตารางวา

ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2540 – 22 มกราคม 2570 ซึ่งปัจจุบัน วิทยาลัยเทคนิคถลางได้มีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 40 ไร่ โดยมีการก่อสร้างอาคารที่ทำการของสำนักงานวิทยาลัย อาคารเรียน อาคารอเนกประสงค์ บ้านพักของเจ้าหน้าที่ เป็นต้น

Advertisement

ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 100 ไร่เศษ อยู่ระหว่างวางแผนเพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ โดยพื้นที่ดังกล่าวมีมูลค่าที่ดินประมาณ 15 – 33 ล้านบาทต่อไร่ ซึ่งหากปล่อยให้บุคคล หรือนายทุน บุกรุกเพื่อประโยชน์ส่วนตัว อาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อรัฐได้

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ส่วนที่เหลือดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ทางด้านหลังของอาคารต่าง ๆ ของวิทยาลัย มีสภาพเป็นพื้นที่เนินสูง มีความลาดชันซึ่งคาดว่าเกิน 35% สภาพเป็นพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้ขนาดใหญ่กระจายอยู่เต็มพื้นที่

และมีสภาพเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ สามารถมองเห็นภูมิประเทศโดยรอบได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ โดยรอบวิทยาลัยเทคนิคถลางมีการปักเขตทำแนวรั้วลวดหนามทั้ง 4 ด้าน ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม – เมษายน 2563 และจากการเดินสำรวจพบว่าผู้บุกรุกได้มีการนำเสาปูนมาทำเป็นแนวเขตที่ดิน พร้อมทั้งมีการสร้างขนำอยู่ในพื้นที่อีกด้วย

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเอกสารในเบื้องต้น เชื่อว่ามีการจัดทำเอกสารแบบบันทึกการใช้ที่ดินของบุคคลในพื้นที่ป่าไม้ (แบบทป.4) ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของราชการกรมป่าไม้

“เชื่อว่าการจัดทำเอกสารดังกล่าวน่าจะมีการทำขึ้นโดยพลการ ตลอดจนพบว่ามีขบวนการที่มีความซับซ้อน
อันอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย เข้ายึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน ซึ่งจะได้รวบรวมข้อมูลและเอกสาร เพื่อพิจารณาสั่งการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป”อธิบดีดีเอสไอ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image