โร่แจ้งปคบ.เอาผิด บ.ขายตรง-ดาราหลอกร่วมลงทุน สุดท้ายเบี้ยวจ่าย โดโด้โผล่แค่’แบรนด์แอมบาสเดอร์’
เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมผู้เสียหายกว่า 30 ราย แจ้งความกับ พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว ผกก.2 บก.ปคบ.ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัทขายตรงแห่งหนึ่ง พร้อมดารานักแสดงรายหนึ่งและพวกฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
นายเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า บริษัทแห่งหนึ่งย่านศรีนครินทร์ ได้เปิดทำธุรกิจขายตรง ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2562 จำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องสำอาง เครื่องครัว และสินค้าอื่นๆ โดยจัดโปรโมชั่นแนะนำบุคคลอื่นมาร่วมเป็นสมาชิก เสียค่าสมัครคนละประมาณ 19,000 บาท ซึ่งการันตีรายได้ให้ในช่วง 8 สัปดาห์แรก โดยสัปดาห์แรกจะจ่าย 500 บาท สัปดาห์ที่สอง 1,000 บาท สัปดาห์ที่สาม 2,000 บาท จากนั้นจะได้รับเงินตามผลประกอบการของรายได้ นอกจากนี้ ได้จัดโปรโมชั่นและเพิ่มรายการสินค้าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
นายเอ กล่าวต่อมา ช่วงเดือน เมษายนที่ผ่านมา บริษัทได้หยุดการจ่ายเงินปันผล อ้างว่าเป็นเพราะโควิด-19 จึงทำให้ไม่สามารถทำยอดขายได้ ซึ่งสมาชิกบางรายสอบถามไปยังในกลุ่มไลน์ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงและถูกลบออกจากไลน์กลุ่ม กระทั่งวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศเลื่อนจ่ายเงินไปถึง เดือนธันวาคมนี้ ทำให้สมาชิกได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก นอกจากนี้ ประธานบริษัทและนายยุทธพิชัย ชาญเลขา หรือ “โดโด้” ดารานักแสดงชาย ได้โพสต์คลิปการใช้สินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจและน่าเชื่อถือให้กับบริษัท รวมทั้งจัดการประชุมและให้กำลังใจสมาชิกในช่วงโควิด-19 แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้น โดโด้กลับอ้างว่าไม่มีส่วนร่วมเกี่ยวข้องบริษัทแต่อย่างใด ซึ่งขัดแย้งกับภาพที่ปรากฎบนเวทีชักชวนร่วมลงทุน อย่างไรก็ตาม พบว่ามีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบ พร้อมสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ต่อมา เวลา 14.30 น. นายยุทธพิชัย หรือ โดโด้ เดินทางชี้แจงโดยยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีตำแหน่งในบริษัทดังกล่าว ตัวเองเป็นเพียงแบรนด์แอมบาสเดอร์ ที่บริษัทจ้างมาเท่านั้น ส่วนประเด็นที่ขึ้นพูดบนเวทีกับอัดคลิปโปรโมทสินค้า เป็นสคริปท์ที่ได้รับจากทางบริษัทเช่นกัน ซึ่งหลังเกิดเหตุก็มีผู้เสียหายบางคนพยายามติดต่อไปมาที่ตนเองแต่ก็ยืนยันไปแล้วว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หากหลังจากนี้ตำรวจเรียกมาสอบปากคำก็ยินดีให้ความร่วมมือ
