เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี ร.ต.อ.ทวี หมื่นลักษณ์ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงตัวเองเสียชีวิต และมีการระบุว่ามีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องนั้นว่า ไม่ได้ระบุ แต่ขอตำหนิสื่อ คือคำถามบางคำถามไม่สร้างสรรค์ รู้อยู่แล้วว่ามีหรือไม่มี ผู้สื่อข่าวถามมาตนก็ตอบไปแบบนั้นนั่นแหละ รู้เจตนาว่าถามอะไร จะให้ตนตอบอย่างไร จริงๆแล้วมีนายตำรวจไหม มี แต่เขาเป็นห่วงเป็นใยเรื่องการที่จะถูกอีกฝ่ายฟ้องร้องในชุดจับกุมเป็นห่วงว่าจะถูกฟ้องเรื่องการจับกุม แต่ไม่ได้กดดันให้ปล่อยรถ ไม่ใช่
“การถามบางครั้งให้มันสร้างสรรค์ ไม่ถามเพื่อจับผิด เขามาบอกกับชุดพนักงานสอบสวนระวังจะมีคนไปฟ้องชุดจับกุมแค่นั้นเอง ให้ดูให้ดีๆ ไม่ได้เกี่ยวกับการกดดันให้ปล่อยรถ แต่ผมรู้เจตนาของคนที่ถามอยู่แล้ว ผมถึงได้ตอบไปว่ามี แต่มันคนละเรื่องกัน” ผบ.ตร.กล่าว
เมื่อถามว่าคนที่มากดดันพนักงานสอบสวนเป็นบุคคลที่เป็นข้าราชการหรือไม่นั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เอาเป็นว่าไม่ใช่ตำรวจแล้วกัน เป็นข้าราชการจากที่อื่น ตนไม่อยากพูดว่าเขามีส่วนหรือไม่มีส่วน แต่ถามว่าเขามากดดันไหมก็มากดดัน เชื่อว่าผู้สื่อข่าวที่อยู่ต่อหน้าตน รู้ชื่อด้วย อาชีพอะไร แต่ตนไม่อยากไปก้าวก่ายและเอ่ยถึงเพราะเดี๋ยวเป็นประเด็น ขณะนี้ปล่อยให้คณะพนักงานสอบสวนของกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) ดำเนินการ เมื่อเช้าก็มีหนังสือพิมพ์ 2-3 ฉบับ ลงเกี่ยวกับที่ตนบอกว่าตำรวจไม่เกี่ยวข้อง คือบางครั้งการถามคำถามมันต้องสร้างสรรค์ด้วย ก็ฝากสื่อมวลชนในที่นี้ด้วย ตนไม่ได้ตำหนิใคร ตนไม่รู้เจตนา
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ลักษณะนี้เหมือนกับว่ามีบุคคลที่ 3 ที่ไม่ใช่ตำรวจและก็ไม่ใช่บริษัทไฟแนนซ์ เข้ามาเกี่ยวข้อง พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า อาจจะเป็นที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้องในคดี จริงๆได้มีการคืนรถไปบางส่วนแล้ว ส่วนรถที่ยังไม่ได้คืนเป็นการพิสูจน์สิทธิ์กันอยู่เท่านั้นเอง ตามที่ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ได้เคยให้ข่าวไปแล้ว
เมื่อถามว่าข้าราชการที่ระบุเหมือนกับว่ามีอิทธิพลในเรื่องของข้อกฎหมาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เขาก็คงทำตามหน้าที่ที่ปรึกษาของบริษัทนั่นแหละ แต่เขาอาจออกอาการมากไป แต่ตนไม่ทราบในส่วนนั้นว่าเป็นที่ปรึกษาอะไรยังไง ถามต่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีมาตรการรับมือข้าราชการคนนี้อย่างไร ในเมื่อเข้ามายุ่งกับข้อกฎหมายและขั้นตอน ผบ.ตร. กล่าวว่า ต้องสู้ในข้อกฎหมายกันอยู่แล้ว ทาง พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 ก็รู้อยู่แล้ว แล้วหัวหน้าพนักงานสอบสวนเรื่องนี้ก็มีความชำนาญและอยู่ในนครบาลมาตลอด
เมื่อถามว่าจะมีการประสานหน่วยงานข้าราชการต้นสังกัดหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของนครบาล พล.ต.ท.ศานิตย์ ทราบอยู่แล้ว เมื่อถามต่อว่าเหมือนตำรวจเป็นฝ่ายถูกรังแก ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่ถูกรังแกนะ ก็มีการดูและปกป้องในเรื่องผลประโยชน์ของเขา เป็นเรื่องของฝั่งเขาที่เป็นที่ปรึกษาอยู่แค่นั้นเอง ไม่มีอะไร คดีก็ว่าไปตามกฎหมายอยู่แล้ว ถามต่ออีกว่าทำให้ตำรวจเสียชีวิต คนที่เข้ามากดดันมีผลหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ ไปสรุปเองไม่ได้ต้องรอผลการตรวจสอบ