ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ 4โจ๋โทรมหญิงครั้งแรก สอบพนง.โรงแรมละเลยปล่อยพาสาวหมดสติขึ้นห้องผิดหรือไม่!

กรณีภัยสังคมยุคโซเชียลมีเดีย น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี นักเรียนของโรงเรียนพาณิชย์ชื่อดังถูกคนร้าย 4 คน รุมโทรมจนเสียชีวิตในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางซื่อ กรุงเทพฯ ต่อมาตำรวจจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด เบื้องต้นพบว่าผู้ตายรู้จักคนร้ายผ่านทางโซเชียลมีเดียและมีการนัดแนะไปดื่ม กินก่อนจะมอมยาผู้ตายลวงเข้าโรงแรมด้วยยาเลิฟแต่ให้ยาเกินขนาดทำให้น.ส.เอ หัวใจวายเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 กล่าวว่า ประเด็นการปล่อยปละละเลยของพนักงานโรงแรมซึ่งควรจะสังเกตเห็นพิรุธของกลุ่มคนร้ายที่พาหญิงสาวเข้าโรงแรม ในลักษณะที่ผู้ชาย 4 คน พยุงผู้หญิงคนเดียวและมีท่าทางเหมือนถูกมอมยา ซึ่งทางพนักงานโรงแรมควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากหญิงสาวไม่ได้สติแล้ว แต่ทางพนักงานโรงแรมก็ไม่ได้สังเกตและแจ้งเจ้าหน้าที่ เป็นประเด็นที่น่าสนใจ ทางตำรวจต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ตั้งคำถามเรื่องนี้ และจะนำเรื่องนี้ไปตรวจสอบกับทางสน.บางซื่อ โดยตนจะสอบถามไปทางพนักงานสอบสวนว่าได้มีการสอบปากคำพนักงานโรงแรมในประเด็น นี้ด้วยหรือไม่ นอกจากการให้ปากคำทั่วๆ ไป โดยจะตรวจสอบคำให้การของทางพนักงานโรงแรมว่าได้สังเกตเห็นเหตุการณ์ที่กลุ่มคนร้ายพาผู้ตายเข้าโรงแรมตามที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้หรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีการละเลยหรือมีลักษณะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทางตำรวจก็จะไปตรวจสอบข้อกฎหมายอีกครั้งว่าทางโรงแรมเข้าข่ายมีความผิดใด หรือไม่ที่มีพฤติกรรมปล่อยปละละเลยแบบนี้

พล.ต.ต.เจริญ กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มคนร้ายนั้น จากการสอบปากคำให้การว่าเพิ่งจะก่อเหตุเป็นครั้งแรก แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จะสืบสวนในเชิงลึกต่อไป ทั้งนี้ หากมีผู้เสียหายใดเคยถูกก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวก็สามารถเดินทางมา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สน.บางซื่อ ได้ตลอดเวลา

รายงานข่าวแจ้งว่าจากการสอบสวน ก่อนเกิดเหตุมีผู้ต้องหา 2 ราย เข้ามาทางประตูด้านหน้าของโรงแรมดังกล่าว ติดต่อพนักงานที่เคาน์เตอร์ ขอเปิดห้องค้างคืน โดยหุ้นกันจ่ายค่าห้องประมาณ 1,000 บาท จากนั้นจึงแอบพา น.ส.เอ เข้ามาอีกประตูหนึ่ง ทำให้ทางพนักงานไม่ทันสังเกตเห็น หลังเจ้าหน้าที่จับกุมมีการใช้ชุดอุปกรณ์ตรวจยาเสพติด ผลปัสสาวะไม่เป็นสีม่วง จึงมีการเจาะเลือด เพื่อนำไปตรวจสอบหาสารเสพติดอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนศพผู้เสียชีวิตต้องรอผลชันสูตรและผลจากแล็บ ประมาณ 45 วัน

 

Advertisement

ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. กล่าวว่า จากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาสารภาพว่าได้ล่วงละเมิดจริง แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีการให้ยาเลิฟแก่ผู้เสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะส่งสารที่พบในร่างผู้ตายไปตรวจรอผล 45 วัน แต่อาจจะเร็วกว่านี้ สั่งการให้สอบปากคำเพิ่มอีก 10 ปาก ในกรณีพนักงานโรงแรมนั้น คาดว่าตอนกลุ่มผู้ต้องหาพาผู้เสียชีวิตเข้ามา ทางพนักงานอาจไม่พบพิรุธ แต่ตอนเสียชีวิต ทางพนักงานโรงแรมได้กันกลุ่มผู้ต้องหาไม่ให้หลบหนีให้รอพบตำรวจ จึงถูกจับกุมได้ในที่สุด ตรงนี้ต้องขอชมเชย ส่วนกรณีที่ไม่มีการแถลงข่าวเนื่องจากทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหากลุ่มผู้ต้องหาต่อหน้าทันที ตามประมวลกฎหมายป.วิอาญา134 วรรค 1 สามารถทำได้และต้องส่งทางศาลเพื่อฝากขังทันที

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image