ตำรวจนำหมายศาลค้นบ้านเสี่ยโป้ย่านเพชรเกษม แม่เสี่ยโป้ขอตร.ค้นฝ่ายตรงข้ามบ้าง
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 29 ตุลาคม พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.9 นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 538/2563 เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์เลขที่ 60/23-27 ถนนเพชรเกษม ซอย 44 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.ซึ่งเป็นที่อยู่ตามภูมิลำเนาของนายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือเสี่ยโป้ อายุ 28 ปี หลังถูกจับกุมตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ระหว่างที่เดินทางมาลงบันทึกประจำวันแสดงความบริสุทธิ์ใจที่ สน.ภาษีเจริญ โดยอาคารดังกล่าวเป็นอาคารสูง 4 ชั้น ปลูกติดกัน 7 คูหา แต่ละคูหาสามารถทะลุเชื่อมต่อกันได้ ปัจจุบันเปิดเป็นกิจการโรงงานเย็บผ้า และสกรีนเสื้อผ้า ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิมของครอบครับเสี่ยโป้ เบื้องต้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย พบเพียงคนงานที่อาศัยอยู่ภายในประมาณ 10 คน
ด้านนายสันธนะ ประยูรรัตน์ กล่าวว่า หลังเสี่ยโป้ ถูกควบคุมตัว ตนในฐานะนายประกันได้วางหลักทรัพย์เงินสด 400,000 บาทไว้ก่อน ส่วนพนักงานสอบสวนจะอนุญาตให้ประกันหรือไม่ ต้องรอเสี่ยเคนเพื่อนสนิทของเสี่ยโป้ ซึ่งถูกออกหมายจับร่วมกันมามอบตัว โดยตนจะเป็นผู้พาเข้ามามอบตัวด้วยตนเองภายในวันนี้ เชื่อว่าท้ายที่สุดพนักงานสอบสวนน่าจะให้ประกันตัวทั้ง 2 คน เนื่องจากทั้งคู่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี หรือไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ที่สำคัญทั้ง 2 คนมีเจตนาเข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง
ต่อมาเวลา 07.45 น. น.ส.บานเย็น ชาญนรา อายุ 47 ปี แม่ของเสี่ยโป้ เปิดเผยภายหลังตำรวจเข้าตรวจค้นว่า ต้องขอบคุณตำรวจสน.ภาษีเจริญ ที่เข้ามาตรวจสอบในวันนี้ และให้ตนได้ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานว่าไม่มีอะไรมาแทรกแซง และยินดีให้ตรวจสอบทุกพื้นที่ของบ้าน ทั้งนี้ตำรวจไม่ได้ขออายัดอะไรไป เพราะไม่มีสิ่งผิดกฎหมายอยู่ ยอมรับว่าไม่ตกใจเพราะเหตุเกิดตั้งแต่เมื่อวานและเรารู้ว่าสาเหตุที่เจ้าหน้าที่มาตรวจค้นเพราะเหตุใด แต่ตนก็อยากให้ไปตรวจค้นอีกฝ่ายเช่นกัน เพราะมีอาวุธปืนเอามายิงถล่มกัน ยืนยันว่าเสี่ยโป้ไม่ได้หนีไป จ.สระแก้ว เมื่อคืนก็เข้ามอบตัว ไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกโพสต์กล่าวหา
น.ส.บานเย็น กล่าวอีกว่า ในวันเกิดเหตุตนได้อยู่ในเหตุการณ์และไปห้ามลูกชายไม่ให้ชกต่อยกัน ให้แยกย้ายกันไปทำมาหากินดีกว่า หลังจากออกมาไม่นานก็ได้ยินเสียงปืน ฝั่งนั้นมีปืนหลายชนิด ที่สำคัญมีอาวุธปืนลูกซอง ทั้งนี้ทราบจากลูกชายว่ามีเรื่องกันมา 2 วัน ก่อนจะนัดต่อยตัวต่อตัว ใครแพ้หรือชนะก็ให้จบแล้วแยกย้ายกันไป
