ซิวโจรจี้เซเว่นมี 2 หมายจับ หนีกบดาน”วิเชียรบุรี”

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่สน.พระโขนง พ.ต.อ.ชนิน วชิรปาณีกูล ผกก.สน.พระโขนง พ.ต.ท.ณัฏฐ์ พิพัฒน์สวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สน.พระโขนง พ.ต.ต.เพิ่มวุฒิ ประทุมราช สว.สส.สน.พระโขนง ร่วมกันนำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง และตำรวจ สภ.พุเตย จว.เพชรบูรณ์ จับกุมตัวนายวีระ พันกลั่น อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพระโขนง พร้อมเหล็กปลายแหลม 1 ด้าม มีดพับ 1 ด้าม กระเป๋าสะพายสีน้ำตาล1 ใบ ผ้าปิดปากสีดำ 1 ชิ้น เสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก็อต จำนวน 1 ตัว เสื้อยืดแขนสั้นคอกลม สีขาว 1 ตัว เสื้อยืดแขนสั้นคอวี สีขาว มีตราเบียร์สิงห์ที่หน้าอก 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาว 1 ตัว รองเท้าผ้าใบสีขาว 1 คู่ รองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล 1 คู่ บุหรี่ iSCORE จำนวน 10 มวน พร้อมซอง และเงินสด จำนวน 170 บาท โดยสามารถจับกุม บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 255/5 หมู่ 6 ต.ภูน้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม เวลาประมาณ 05.30 น.ที่ผ่านมา

ก.3

สืบเนื่องจากมีคนร้ายเป็นชายก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ (เซเว่นอีเลเว่น) สาขาหมู่บ้านกลางเมือง ซ.อ่อนนุช 46 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ซึ่งอยู่ในพื้นที่ สน.พระโขนง ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม เวลาประมาณ 00.16 น. คนร้ายได้ใช้อาวุธเหล็กปลายแหลมเข้าไปก่อเหตุจี้พนักงานขาย ได้เงินสด 600 บาท และบุหรี่ ไอสกอร์ 2 ซอง ส่วนครั้งต่อมา เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม เวลาประมาณ 00.10 น.คนร้ายใช้อาวุธมีดพับก่อเหตุจี้พรักงานเช่นเดิม ซึ่งได้เงินสด 1,200 บาท และบุหรีไอสกอร์ 2 ซอง จากนั้นทางตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายคือนายวีระ ต่อมาได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาอยู่ในเขตพื้นที่ต.ภูน้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ จึงนำกำลังตรวจสอบจนพบผู้ต้องหารายนี้ยืนอยู่บริเวณดังกล่าว จึงเข้าแสดงตัวทำการจับกุม ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางสอบสวนที่ สน.พระโขนง

สอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นลูกจ้างร้านรับทำอลูมิเนียม ย่านอ่อนนุช ก่อนถูกไล่ออก เนื่องจากติดสุราอย่างหนัก จนเสียการเสียงาน ตลอดจนไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องพัก ต้องอาศัยร้านยาดองเป็นที่พักพิง ต่อมาเจ้าตัวได้ติดค้างค่ายาดอง จนต้องหนีออกมานอนตามทางเท้า ทำให้เจ้าตัวคิดหารายได้ทางลัดด้วยการจี้ร้านสะดวกซื้อถึง 2 ครั้ง ก่อนนำเงินที่ได้ไปซื้อสุรามาดื่ม ก่อนหลบหนีกลับภูมิลำเนา จ.เพชรบูรณ์ ทั้งนี้เจ้าตัวยอมรับว่าก่อเหตุเพียงครั้งแรก รวมทั้งตรวจสอบประวัติอาชญากรไม่พบประวัติแต่อย่างใด

Advertisement

อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ ต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา”ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ และพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image