ประกันแจงแล้ว หลังสามี ร้องเรียนปม บริษัทแจ้งเมียตาย ทั้งที่ยังนอนรักษาตัว

(3 ก.พ.59) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 4101 หอผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูกและข้อ อาคารหลวงพ่อคูณ  ปริสุทโธ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นายจำรอง เยาวกูล อายุ 53 ปีได้นำผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีบริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด ( มหาชน ) ได้ส่งหนังสือบอกล้างสัญญา ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 58 โดยในหนังสือมีข้อความว่า บริษัทฯ ขอแสดงความเสียใจสำหรับผู้เสียชีวิตของคุณอุมาพร ตรีสกุล บุคคลผู้เป็นที่รักยิ่งต่อท่านและครอบครัวมา ณ โอกาสนี้ ” ทั้งๆที่นางอุมาพร ตรีสกุล อายุ 45 ปี เจ้าของร้านอาหารระเบียงแก้ว ซึ่งเป็นภรรยานายจำลอง ซึ่งป่วยโรคเบาหวาน ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องพักดังกล่าว ในระหว่างที่นายจำรอง อ่านข้อความให้ผู้สื่อข่าวรับฟัง นางอุมาพร ผู้เป็นภรรยากั้นน้ำตาไม่อยู่แสดงอาการรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง อ.เมือง นครราชสีมา เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

นายจำรอง เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้รับผลประโยชน์ได้ทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทประกัน กรมธรรม์เริ่มสัญญาวันที่ 21 เม.ย.58 ซึ่งเป็นรูปแบบวงเงินประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย 15 ปีๆ ละ 44,202 บาท หากเสียชีวิตจะได้ทุนประกันวงเงิน 5 แสนบาท โดยชำระทุนประกันปีแรกแล้ว เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ภรรยาได้เข้ารักษาด้วยโรคเบาหวาน ที่โรงพยาบาล ป.แพทย์ 2 นครราชสีมา ต่อมาได้ย้ายมารักษาตัวทีโรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา แต่อาการไม่ดีขึ้น ต้องผ่าตัดทำให้อาการทรุดหนัก จึงย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา เมื่อวันที่ 7 สค. จนอาการดีขึ้นตามลำดับ แต่กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง ล่าสุดได้รับหนังสือแจ้งจากบริษัท ฯ ประกันดังกล่าว ระบุภรรยาเสียชีวิต ตนได้ติดต่อเจรจากับตัวแทนบริษัท ฯ แต่ได้คำตอบสั้นๆขอโทษกับสิ่งที่ผิดพลาดและไม่พยายามแสดงความรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งตนและครอบครัวได้ใช้เงินส่วนตัวจ่ายค่ารักษากว่า 2 ล้านบาท ล่าสุด บริษัท ได้คืนเงินเบี้ยประกันภัย โดยเป็นเช็ค ธนาคารทหารไทย จำนวนเงิน 44,202 บาท เพื่อให้เรื่องจบลง ตนจึงไปปรึกษากับญาติ พี่น้องว่าจะไม่รับเงินอย่างแน่นอนพร้อมจะฟ้องร้องให้เป็นคดีให้ถึงที่สุด เพื่อให้เป็นตัวอย่างของสังคมไทย

ล่าสุด บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 21 มษายน 2558 คุณอุมาพร ตรีสกุล ได้ตกลงซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตพร้อมสัญญาเพิ่มเติมกับบริษัทจริง แต่เนื่องจากในการซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตดังกล่าวนั้น คุณอุมาพรไม่ได้แจ้งต่อบริษัทในใบคำขอเอาประกันภัยถึงอาการป่วยเป็นโรคเบาหวาน โดยหากบริษัทได้ทราบข้อเท็จจริงนี้ก่อนซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต บริษัทอาจจะพิจารณาไม่รับประกัน หรือรับประกันด้วยการเรียกเก็บเบี้ยประกันสูงขึ้น ตามเงื่อนไขการรับประกันของบริษัท

ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2558 คุณอุมาพรได้ส่งเอกสารขอเบิกค่าใช้จ่ายของค่ารักษาพยาบาล บริษัทจึงได้ตรวจสอบข้อมูลด้านภาวะโรค จึงพบว่าคุณอุมาพรมีประวัติการรักษาโรคเบาหวานมาก่อนที่ทำประกันชีวิตกับบริษัท ซึ่ง คุณอุมาพรจะต้องแจ้งให้บริษัททราบก่อนการซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต แต่มิได้แจ้งอาการดังกล่าว จึงทำให้กรมธรรม์ประกันชีวิตฉบับนี้เป็นโมฆียะตามกฎหมาย บริษัทจึงได้ทำหนังสือบอกล้างสัญญาและขอคืนเงินเบี้ยประกันภัยให้แก่ลูกค้า

Advertisement

บริษัทได้ทำหนังสือไปถึงคุณอุมาพร แต่เนื่องจากในหนังสือดังกล่าวมีข้อความผิดพลาดบางข้อความเกี่ยวกับอาการของคุณอุมาพร ซึ่งบริษัทได้แสดงความเสียใจในข้อความดังกล่าวแล้ว และคุณอุมาพรเข้าใจในข้อความผิดพลาดในหนังสือดังกล่าวเป็นอย่างดี แต่สามีคุณอุมาพร คือคุณจำรอง เยาวกุล ไม่ยอมรับการแสดงความเสียใจของบริษัทในข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นและปฏิเสธว่าคุณอุมาพรไม่ได้ป่วยเป็นโรคเบาหวานมาก่อน คุณจำรองจึงได้เข้าร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จังหวัดนครราชสีมา และบริษัทได้เข้าชี้แจงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคปภ.จังหวัดนครราชสีมาเข้าใจและเห็นด้วยกับคำชี้แจงของบริษัท โดยคปภ.จังหวัดนครราชสีมาจะเป็นผู้ประสานงานให้คุณอุมาพรมารับเช็คคืนเบี้ยประกันที่คปภ.โคราช แต่อย่างไรก็ดี จนขณะนี้ ทางผู้เอาประกันภัยยังไม่ได้ติดต่อทางคปภ.จังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับเช็คคืนเบี้ยประกันดังกล่าว

อย่างไรก็ตามบริษัทจึงขอชี้แจงว่า กรณีที่บริษัทบอกล้างกรมธรรม์ของคุณอุมาพร เหตุผลมาจากคุณอุมาพร ผู้เอาประกันภัยไม่ได้แถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาการป่วยเป็นเบาหวานก่อนทำสัญญาประกันชีวิตกับบริษัท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image