คุก 2 เดือน นักธุรกิจเพื่อนเสี่ยบรรยิน ให้การเท็จเงื่อนเวลาการตายเพื่อช่วยเหลือให้’บรรยิน’พ้นผิด คดีฆาตกรรมเสี่ยจืด สารภาพรับลดเหลือโทษกักขังแทน 1 เดือน
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา ศาลแขวงพระนครเหนือ ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ศาลได้อ่านคำพิพากษา คดีดำ อ.2859/63 ที่พนักงานอัยการคดีศาลแขวง และนางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยานายชูวงษ์ แซ่ตั้ง หรือเสี่ยจืด อดีตผู้รับเหมาก่อสร้างมูลค่านับหมื่นล้าน เป็นโจทก์ฟ้องนายชาญศักดิ์ ธนเตชา กรรมการผู้มีอำนาจบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นจำเลยในความผิดฐาน แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานพนักงานสอบสวนคดีอาญา
กรณีนายชาญศักดิ์ได้ให้ปากคำแก่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เมื่อคืนวันที่ 26 มิถุนายน 2558 ที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคเพื่อไทยหลายสมัย อ้างว่า ขณะขับรถกลับจากการรับประทานอาหารมากับนายชูวงษ์ รถเกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้ จนนายชูวงษ์ เสียชีวิต มีการจงใจให้การเท็จเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.บรรยิน เพื่อให้เวลาออกจากสนามกอล์ฟ ใกล้เคียงกับเวลาเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ และใกล้เคียงกับเวลาตาย มากที่สุด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไขว้เขว และสับสน โดยหากไม่สามารถหาหลักฐานอื่นมายืนยันได้ ก็จะทำให้นายบรรยินพ้นความผิดการเหตุฆาตกรรมนายชูวงษ์ได้
ศาลสอบคำให้การนายชาญศักดิ์ จำเลยแล้วให้การรับสารภาพ เห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุก 2 เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 (แก้ไข) จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 เดือน พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดี ประกอบคำรับสารภาพ ไม่ปรากฏว่า จำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงเปลี่ยนโทษจำคุก เป็นการกักขังแทน 1 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กองปราบ ได้สืบสวนสอบสวนคดีการโอนหุ้นและเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เมื่อปี 2558 และเรียกนายชาญศักดิ์ ธนเตชา นักธุรกิจชื่อดังซึ่งอยู่ในก๊วนกอล์ฟ ในวันเสียชีวิตของนายชูวงษ์ และเป็นคนสุดท้าย ที่อยู่กับ พ.ต.ท.บรรยิน และผู้ตาย มาให้การเป็นพยาน โดยนายชาญศักดิ์ได้เคยให้การยืนยันมาตลอดว่า ออกจากสนามกอล์ฟ พร้อมผู้ตาย และพ.ต.ท.บรรยิน ช่วงประมาณ 21.00 น.แล้วมาเกิดเหตุพบนายชูวงษ์ เสียชีวิต ในเวลาประมาณ 22.00 น.ของคืนวันเดียวกัน นั้น
ทางการสืบสวน พบหลักฐานว่า ทั้งนายชาญศักดิ์ พ.ต.ท.บรรยิน และผู้ตาย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน เข้ารับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตั้งแต่เวลาก่อน 20.00 น. และออกจากสนามกอล์ฟ ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.10 น. และผู้ตายเสียชีวิตหลังกินอาหารไม่นาน ทำให้เชื่อว่า จึงกล่าวหาว่าให้ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนตามป.อาญามาตรา 172
คดีนี้พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องแต่พนักงานสอบสวนเห็นแย้งอัยการสูงสุดชี้ขาดให้ฟ้องต่อศาลแขวงในข้อหาให้การเท็จตาม ป.อาญามาตรา 172 ต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ดังกล่าว
ส่วนคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน กับพวก ก่อเหตุอุ้มฆ่า พี่ชายผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีโอนหุ้นนายชูวงษ์ นั้น ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
