เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3(ผบก.น.3) พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา รองผบก.น.3 พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.ท.นิเวชร์ งามลาภ รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี พ.ต.ต.วรวุฒิ อินทร์โสม สว.สส.สน.มีนบุรี, ร.ต.อ.ประกอบ สอนจันดา ร.ต.อ.อภิภู อินทร์ถา รอง สว.สส.สน.มีนบุรี ด.ต.กรกฤตโชติ รวมธรรม ด.ต.มนัส จันทมุด ด.ต.เกียรติศักดิ์ กันทะเจ้า และ ด.ต.วิรัตน์ มุ่งพันธ์กลาง ผบ.หมู่.(สส.)สน.มีนบุรี จับกุมนายปฐวี กิจมะณี อายุ 23 ปี อยู่ที่ 41/27 ม.17 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม.และนางวรรณี หรือ จู ประโคม อายุ 44 ปี อยู่ที่ 33 ซอยราษฎร์อุทิศ 2/4 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม.(อาชีพรับจ้าง) ข้อหา “รู้ว่ามิได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานสืบสวนผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่ามีการกระทำผิด”
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวว่าก่อนจับกุมมีผู้อ้างตัวว่าเป็นผู้เสียหายว่าขณะขับขี่รถจักรยานยนต์(จยย.)มาถึงร้านก๋วยเตี๋ยว ระหว่างซอยสุวินทวงศ์32-ถนนคุ้มเกล้า แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม.มีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 3 คน จอดรถจยย.ยามาฮ่า รุ่น X MAX สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน แต่งกายสวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบทั้ง 3 คน ทำทีเรียกเพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นใช้อาวุธปืนข่มขู่ บังคับเอาเงินสดจำนวน 300 บาทหลบหนีไป ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี เชิญนายปฐวี มาซักถามรายละเอียดแต่ให้การวกวนมีพิรุธ ไม่ตรงตามที่ได้ให้รายละเอียดไว้ เมื่อเค้นสอบถามรับสารภาพว่านำเงิน 300 บาทไปใช้หนี้เพื่อนแล้วไม่เหลือเงินกลับบ้านเกรงว่าจะทะเลาะกับภรรยา จึงมาแจ้งความเพื่อไปบอกภรรยาว่าโดนปล้นทรัพย์ โดยอ้างสถานการณ์ตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลต่างๆว่ามีเหตุการณ์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ เกิดขึ้นในเขตพื้นที่ สน.มีนบุรี
ผบก.น.3 กล่าวอีกว่าสำหรับนางวรรณี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ว่าเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมาจอดรถรถยนต์ริมถนนราษฎร์อุทิศ ข้างเซ่เว่นแยกบาแล แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพ ระหว่างลงจากรถยนต์มีชายวัยรุ่น 2 คน สวมหมวกเต็มใบ ขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน เข้ามากระชากกระเป๋าที่สะพายไว้ ภายในกระเป๋ามีเงินสด 90,000 บาท และเอกสารต่าง ๆ แล้วหลบหนีไป จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ซักถามให้การวกวนมีพิรุธต้องสงสัย ไม่ตรงกับรายละเอียดที่ได้แจ้งไว้ เมื่อเค้นสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ากู้ยืมเงินมาและไม่มีเงินไปชำระ จึงมาแจ้งความเพื่อไปบอกเจ้าหนี้ ว่าโดนวิ่งราวทรัพย์ไป โดยอ้างสถานการณ์ตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลต่างๆ ว่ามีเหตุการณ์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ซึ่งเกิดบริเวณถนนประชาร่วมใจ สุวินทวงศ์ ราษฎร์อุทิศ ในพื้นที่ สน.มีนบุรี จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีต่อไป
