เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.สมชาย นพศรี ผกก.สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ว่าเมื่อวันที่ 15 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่ดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวประจำท่าเทียบเรือท้องศาลา ต.เกาะพะงัน ได้ตรวจสอบพบชายต้องสงสัย 1 ราย จึงได้ควบคุมตัวชายคนดังกล่าวมาตรวจสอบ ทราบชื่อว่านายมูฮัมหมัดอดัมบิน อูจันด์บินซาเลย์ ดือเระ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/6 ม.11 ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส โดยสารมากับเรือเร็วลมพระยาจากจังหวัดชุมพร มายังเกาะพะงัน หลังพบพิรุธต้องสงสัย จากการตรวจค้นตามร่างกายและกระเป๋าเดินทางของผู้ต้องสงสัย พบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆจำนวน 5 เครื่อง และซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในประเทศมาเลเซีย 1 ซิม จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เกาะพะงัน พร้อมกับรายงานให้ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี รับทราบ
จากการสอบปากคำนายมูฮัมหมัดอดัมบิน อูจันด์บินซาเลย์ ดือเระ ผู้ต้องสงสัยรายนี้ให้การว่า โทรศัพท์มือถือทั้ง 5 เครื่องเป็นของตัวเองจริง โดยโทรศัพท์ดังกล่าวได้ซื้อมาจากค่ายโทรศัพท์มือถือมาใช้งานเพราะมีราคาถูก และเพิ่งเดินทางมาเที่ยวที่เกาะพะงันเป็นครั้งแรก เพราะมีเพื่อนที่ทำธุรกิจบังกะโลเช่าบนเกาะพะงันได้ชักชวนมาท่องเที่ยว ซึ่งเพื่อนเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
ต่อมา นางรัตตา กรือเกอร์ ซึ่งเป็นเพื่อนของนายมูฮัมหมัดอดัมบิน อูจันด์บินซาเลย์ ดือเระ ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแสดงตัวว่าเป็นเพื่อนของตนเองที่ได้ชวนให้มาเที่ยวที่เกาะพะงัน โดยได้ออกค่าเดินทางให้ และก็เป็นครั้งแรกที่นายมูฮัมหมัดอดัมบิน อูจันด์บินซาเลย์ ดือเระ เดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะพะงัน
ด้าน พ.ต.อ.สมชาย ผกก. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัตินายมูฮัมหมัดอดัมบิน อูจันด์บินซาเลย์ ดือเระ กับกับหน่วยงานด้านความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่พบประวัติการกระทำผิดใดๆ และตรวจสอบประวัติการใช้โทรศัพท์มือถือก็ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พล.ต.ต.อภิชาติ ผบก.ก็มีคำสั่งให้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ไป พร้อมกับขอบคุณในการให้ความร่วมมือในมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยว
