เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่สน.นิมิตรใหม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3 พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.ธนชัย อุสาหกิจ ผกก.สน.นิมิตรใหม่ แถลงจับกุมตัวนายอนุวัฒน์ หรือนัท พุ่มพวง อายุ 30 ปี ชาวอุทัยธานี นายภัทรศยา หรือ ออย สงวนรัมย์ อายุ 28 ปี ชาวบุรีรัมย์ และนายพัทธพล หรือเอ็น แก้วบุบผา อายุ 17 ปี ชาวขอนแก่น ข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน คือปืนปลอม ดิ้ว (กระบองยืด) ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพากนะเพื่อกระทำผิด หรือเพื่อพาทรัพย์ไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร ร่วมกันมีเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน พร้อมของกลาง วิทยุสื่อสารยี่ห้อICOM สีดำ 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง ดิ้ว (กระบองยืด) 1 อัน รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีดำ ทะเบียน ยวก 195 กรุงเทพมหานคร สร้อยคอทองคำ 3 บาท 1 เส้น สร้อยคอทองคำ 1 สลึง 1 เส้น แหวงทองคำ 1 บาท 1 วง เหรียญ ร.5 กรอบทอง 1 เหรียญ ปืนอัดลม 2 กระบอก กระสุนปืนอัดลมพลาสติก 100 นัด กระสุนปืนอัดลมแบบเหล็ก 50 นัด โน๊ตบุ๊ค1 โทรทัศน์ ยี่ห้อ ทีซีแอ ขนาด 32 นิ้ว 1 เครื่อง เงินสด10,000 บาท และเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ โดยสจับกุมตัวได้บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ หมู่บ้านเคซีรามอินทรา 2 เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่าเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่1กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาได้มีคนร้าย3 คนได้ก่อเหตุปล้นทรัพย์สินของนายถนอม คงไทย อายุ ปี เจ้าของกิจการร้านนวด บริเวณซอยไม่มีชื่อข้างหมู่บ้านแคทลียา ซ.หทัยราษฎร์ 37 แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ซึ่งคนร้ายได้เงินสด 50,000 บาท โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 จำนวน 1 เครื่อง จากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มสาวประเภท 2 จะหาไอดีของเหยื่อที่เป็นเจ้าประกอบกิจการนวดทางเว็ป G Boy หลังจากนั้นจะติดต่อผู้เสียหายผ่านโปรแกรมไลน์ โดยจะนำรูปผู้ชายหน้าตาดีขึ้นเป็นรูปโปรไฟร์ ซึ่งไม่ใช่รูปคนร้าย เพื่อติดต่อพูดคุยและนัดให้ผู้เสียหายมานวดนอกสถานที่ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อมายังจุดนัดหมาย นายอนุวัฒน์ ก็จะขับขี่รถจักรยานยนต์มาหาก่อนจะพาไปยังซอยเปลี่ยว จากนั้นนายภัทรศยา และนายพัทธพล คนร้ายอีก 2 คนที่ซุ่มอยู่ข้างทางก็จะเข้ามาร่วมกันใช้อาวุธปืนปลอมปล้นอาทรัพย์สินหลบหนีไป
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.นิมิตรใหม่ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณร้านสะดวกซื้อหมู่บ้านเคซีรามอินทรา 2 จับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน กระทั่งพบนายอนุวัฒน์ ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับคนร้ายในกล้องวงจรปิดเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม และจากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับนายภัทรศยา และนายพัทธพล ในการก่อเหตุด้วย และพักอาศัยอยู่บริเวณห้องเบอร์ 41 บ้านธัญลักษณ์ มณีรัตน์ เลขที่ 9/59 ซ.รามอินทรา 86 ถ.รามอินทรา แขวงและเขตมีนบุรี เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวพร้อมของกลางได้ในเวลาต่อมา ทั้งหมดยังให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวตั้งแต่ปลายเดือน ธันวาคม 2558 จนถึงปัจจุบัน รวม 8 ครั้ง
จากการสอบสวนนายอนุวัฒน์ ผู้ต้องหาให้การว่า ปกติตนทำงานร้องเพลงตามร้านอาหาร ต่อมาวงดนตรีได้ยุบตัวลง ทำให้ไม่มีเงินใช้ จึงชวนนายภัทรศยา และนายพัทธพล มาก่อเหตุ โดยจะเลือกก่อเหตุตรงเปลี่ยวที่ไม่ค่อยมีคนและมีแสงไฟน้อย ส่วนเลือกมาก่อนเหตุในลักษณะนี้เนื่องจากตนเคยเล่นและพูดคุยผ่านเว็บ แล้วถูกหลอกให้ออกมาหาก่อนจะโดนปล้น ตนแค้นใจจึงอยากจะเอาคืน ทรัพย์สินที่ได้มาก็จะนำไปขายเมื่อได้เงินมาก็จะนำมาหาร 3 ส่วนของตนที่ได้มาจะนำไปซื้อทีวีมา 1 เครื่อง และไปไถ่สร้อยคอที่ตนจำนำไว้ออกมา
