จับสาวแสบ ปั้นเรื่องแจ้งเท็จ จนออกหมายจับผิดตัว แถมอุปโลกน์เหยื่อเป็นแฟน”แอล โอรส”(คลิป)

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 สิงหาคม ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(191) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล สว.งานสายตรวจ 3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน งานสายตรวจ 3 ร่วมกันจับกุมน.ส.สหธญา ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ กรณี น.ส.สหธญา แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่สายตรวจตามโครงการ 191 You’ll never walk alone 191 ทำดี ทำได้ ทำทันที ว่าถูกน.ส.ภิรมย์ยา กองเงิน อายุ 25 ปี ชาวจ.เชียงใหม่ (ผู้เสียหาย) ร่วมกับแฟนหนุ่มชื่อ แอล โอรส ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ปล้นทรัพย์ และจะพยายามรุมโทรมข่มขืน ก่อนส่งภาพที่ถูกทำร้ายร่างกายและอาวุธปืนมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสอบสวนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะคดีแก๊งโอรสที่สร้างความความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ตนจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่สายตรวจสืบสวน

ภาณุรัตน์3

พ.ต.ท.ปียรัช กล่าวว่า หลังสืบค้นข้อมูลจนทราบว่า น.ส.สหธญามีการแจ้งความดำเนินคดีทำร้ายร่างกายกับผู้เสียหายที่สน.ทุ่งสองห้อง 3 คดี และทำร้ายร่างกายกับปล้นทรัพย์ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรีอีก 2 คดี จนเป็นเหตุให้น.ส.ภิรมย์ยา ผู้เสียหายถูกออกหมายจับที่สภ.รัตนาธิเบศร์ แต่โดยข้อเท็จจริงหลังจากสืบสวนแล้วพบว่าน.ส.ภิรมย์ยา ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวอ้าง ต่อมาผู้ต้องหายังได้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า“Ooy smil” ตั้งใจจะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดความสับสน โดยมีการลงภาพอ้างแก๊งโอรสทำร้ายลงในบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว

ภาณุรัตน์4

Advertisement

“หลังจากพบข้อพิรุธหลายอย่าง ว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจริง ส่วนภาพที่ผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บนั้น เป็นภาพถ่ายตอนที่ผู้ต้องหามีเรื่องทะเลาะตบตีกันกับเพื่อนสนิท และทรัพย์สินที่อ้างว่าถูกปล้นไปนั้น ไม่ได้มีอยู่จริง การแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับคดีอาญาซึ่งมิได้เกิดขึ้นจริงดังกล่าว ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายเดือนร้อนอย่างยิ่ง เพราะอาจจะถูกดำเนินคดีทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิดจริง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการขอถอนหมายจับผู้เสียหายที่สภ.รัตนาธิเบศร์ เรียบร้อยแล้ว” สว.งานสายตรวจ 3 กล่าว

ด้านน.ส.สหธญา รับสารภาพว่า ได้สร้างเรื่องขึ้นและเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง เพราะมีเรื่องราวตบตีกับเพื่อนที่ทำธุรกิจด้วยกันถึง 5 ครั้ง ทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องผู้ชาย(หึงหวง) แต่ตนไม่ทราบชื่อจริงของเพื่อนคู่กรณีที่ตบตี จึงอ้างชื่อของน.ส.ภิรมย์ยา เคยเป็นลูกค้าที่สั่งซื้อครีมผ่านทางเฟซบุ๊กของตนเองเพราะเห็นว่าน.ส.ภิรมย์ยา อาศัยอยู่ที่จ.เชียงใหม่ เลยไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ ส่วนที่อ้างว่าน.ส.ภิรมย์ยา เป็นแฟนกับแอล แก๊งโอรส เพื่อต้องการในเรื่องราวดูน่ากลัวและเรียกร้องความสนใจจากแฟนหนุ่ม ต้องขอโทษกับทางผู้เสียหายด้วย

Advertisement

ส่วนน.ส.ภิรมย์ยา ผู้เสียหาย กล่าวว่า เปิดร้านถ่ายเอกสารอยู่ที่จ.เชียงใหม่และอยู่จ.เชียงใหม่มาตลอด ที่ทราบว่าถูกออกหมายจับตนรู้สึกตกใจ และเป็นกังวลมาก ไม่ทราบว่าใครเป็นคนไปแจ้งความ เพราะที่ผ่านมาเคยมากทม.เพียงครั้งเดียว คือ มาทัศนศึกษากับทางมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นไม่ได้มากทม.อีกเลย จนกระทั่งมีหมายเรียกของสน.ทุ่งสองห้องมาที่บ้าน เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา จึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สภ.ภูพิงค์ จ.เชียงใหม่ ไว้เป็นหลักฐาน และเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 เพื่อยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวอ้าง และเป็นครั้งแรกที่พบกับผู้ต้องหา ส่วนตัวไม่เคยรู้จักกับผู้ต้องหาแต่อย่างใด ที่ผ่านมาสั่งครีมออนไลน์ผ่านทางเฟซบุ๊กหลายครั้ง ไม่ทราบว่าใครเป็นคนอ้างชื่อตน ทั้งนี้อยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ที่ให้การช่วยเหลือสืบสวนจนทราบความจริงจนได้ความยุติธรรม ไม่เช่นนั้นคงถูกดำเนินคดีไปแล้วและไม่รู้ชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาใช้ชื่อ น.ส.นาทัชชา สายแวว เป็นชื่อปลอมและใช้ในการแจ้งความทุกครั้ง โดยอ้างกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำบัตรประชาชนหาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image