ญาติส่งผลวิเคราะห์การเสียชีวิต”ชูวงษ์”ฉบับแพทยสภา ให้กองปราบ “รรท.ผบก.ป.”ลั่น2สัปดาห์ สรุปอุบัติเหตุ-ฆาตกรรม

จากกรณีนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ และประธานกลุ่มวิทยาการตลาดทุน กิจการเพื่อสังคม (วตท.) รุ่นที่ 20 เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ ภายหลังนั่งรถยนต์ยี่ห้อเล็กซัส 470 สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร มี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ เป็นคนขับ ประสบอุบัติเหตุชนต้นไม้ริมทาง บริเวณตรงข้ามถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 61 แขวงและเขตสวนหลวง เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน2558ที่ผ่านมา
ชูวงษ์อีก2
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง พี่สาว พร้อมภรรยานายชูวงษ์ และนายอเนก คำชุ่ม ทนายความ เข้าพบ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. รรท.ผบก.ป. เพื่อนำเอกสารผลตรวจวิเคราะห์ของแพทยสภา เกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ มามอบให้กพนักงานสอบสวน บก.ป.และพิจารณานำเข้าประกอบสำนวนคดีดังกล่าว

น.ส.วันเพ็ญ กล่าวว่า ประสานกับทนายความ เพื่อนำผลการตรวจวิเคราะห์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ จากแพทยสภา มามอบให้พนักงานสอบสวน ประกอบสำนวนการสอบสวน ในส่วนนี้ทางญาติได้ร้องขอต่อแพทยสภาให้ตรวจสอบประเด็นต่างๆประมาณ 7 ข้อ บางข้อไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวนคดี แต่ทำให้ญาติรู้สึกมั่นใจเกี่ยวกับประเด็นการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ที่เป็นปริศนา เพราะมีผลจากทางนิติเวช จากผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ด้าน เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ และอื่นๆนำมาประกอบกัน

ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจในข้อมูลที่ได้รับมาเพิ่มเติมถึงกรณีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ น.ส.วันเพ็ญ กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้รับมาทำให้ทางเรามีความมั่นใจในสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ มากขึ้น แต่การจะพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราคิดนั้นถูกต้องหรือไม่ คงต้องใช้ผลตรวจต่าง ๆ นำมาประกอบ เพราะรถยนต์ที่ชนต้นไม้ด้วยความแรงของรถที่กระจกหน้าไม่แตก รถเสียหายเล็กน้อยเท่านั้น จะถึงกับทำให้เสียชีวิต รวมทั้งบาดแผลที่พบทั้งหมดในตัวจะเกี่ยวข้องกับการชนครั้งนั้นครั้งเดียว แล้วทำให้บาดแผลมีรอบตัวขนาดนั้นหรือไม่ เป็นสิ่งที่ทางตำรวจ บก.ป.ได้ผลตรวจนี้ไปแล้ว คงต้องรับไปดำเนินการต่อ

“ทางพนักงานสอบสวนคงต้องสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ อีกหลายฝ่ายทางเราได้ประสานข้อมูล นำภาพถ่ายและหลักฐานต่างๆ มามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว” น.ส.วันเพ็ญ กล่าว

Advertisement

ด้าน น.ส.ศิริรัตน์ กล่าวถึงกรณีนายชูวงษ์ เคยขึ้นเครื่องบินเดินทางไปต่างประเทศกับ พ.ต.ท.บรรยิน และ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาว ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีโอนหุ้น ว่า เรื่องนี้ทั้งสองฝ่ายทราบมาโดยตลอด ตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ครั้งนั้นนั่งเครื่องบินไปประเทศอังกฤษ ไปดูงานของ วตท.เรื่องนี้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว ซึ่งขณะนั้นยอมรับว่ายังไม่รู้จัก น.ส.อุรชา มาก่อน

ส่วนน.ส.วันเพ็ญ กล่าวว่า ให้ข้อมูลต่างๆ กับทางตำรวจแล้ว และนอกจากให้ปากคำยังระบุด้วยว่านายชูวงษ์ ได้พาภรรยาและลูกไปด้วย แล้วก็มีเพื่อนๆ ที่ วตท.เดินทางไปกันทั้งคณะ เรามีข้อมูลทั้งหมด ส่วนหลักฐานอื่นๆ นอกจากผลตรวจจากแพทยสภา ญาติได้นำมามอบให้ตำรวจไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยเฉพาะภาพที่นอกเหนือจากที่สถาบันนิติเวช ส่งมา ที่มีเพียง 2 ภาพ แต่เรามีรูปภาพอื่นๆ ของนายชูวงษ์ อีกเยอะ มอบให้ตำรวจแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ญาติมั่นใจแล้วใช่หรือไม่ว่าใครอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ น.ส.วันเพ็ญ กล่าวว่า เรื่องนี้คิดว่าทางสื่อมวลชนก็น่าจะทราบดีอยู่แล้ว แต่ขอให้ทางตำรวจเป็นผู้ดำเนินการต่อก่อนดีกว่า ยังไม่ขอตอบในเวลานี้

Advertisement

พล.ต.ต.ชาญ กล่าวว่า หลังจากได้รับเอกสารหลักฐานดังกล่าวเพิ่มเติมจากญาติของนายชูวงษ์ มาแล้วนั้น สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนและตรวจสอบข้อมูลในรายละเอียดที่ได้มา พร้อมกับตั้งประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ก่อนจะประสานไปยังแพทยสภา เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น ที่ผ่านมาสอบปากคำแพทย์นิติเวช ไปแล้ว ผลเป็นไปตามผลการชันสูตรที่ได้รับมาแล้วในเบื้องต้น ก่อนที่ทางญาติจะทำเรื่องร้องเรียนไปแพทยสภาให้ดำเนินการตรวจสอบผลการชันสูตรที่แน่ชัด

พล.ต.ต.ชาญ กล่าวต่อว่า สำหรับผลการจำลองเหตุการณ์รถชนให้เหมือนจริงในวันเกิดเหตุ นั้น ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เชี่ยวชาญไปเกือบหมดแล้ว คงเหลือเพียงการสอบผู้ชำนาญการอีก 1 คน พร้อมกับรอผลการสอบปากคำผู้แทนจากแพทยสภาที่จะดำเนินการหลังจากนี้อีก 2-3 คน คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์ ก็จะสามารถกำหนดทิศทางและสรุปสำนวนคดีนี้ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image