น้องน้ำมนต์ รองนางสาวไทยปี62 เก๋งชนต้นไม้ อาการสาหัส เพื่อนเสียชีวิต2 ศพ
เมื่อเวลา 04.40 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ สภ.ย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักชนต้นไม้พลิกคว่ำ บริเวณถนนหน้าคณะนิติศาสตร์ สี่แยกโรงเรียนสาธิตศึกษาศาสตร์ ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งหนึ่งในผู้บาดเจ็บคือ นางสาวมนชนิตว์ ช่วยบุญ หรือน้ำมนต์ อายุ 22 ปี อดีตนางนพมาศ และเป็นดาวคณะวิทยาศาสตร์ มข. และยังเป็นรองนางสาวไทย ปี 2562 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กู้ภัยสามัคคีอุทิศ และกู้ชีพโรงพยาบาลศรีนครินทร์เร่งเข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ยี่ห้อซูซูกิสวิฟ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน 4กย 4074 กรุงเทพมหานคร สภาพพังยับเยิน กระจกหน้าแตก กันชนหน้าพังยับ ประตูทั้งสองข้างเปิดออก หลังคารถด้านท้ายพังยุบลงมา พบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อคือนางสาวกรชฎา เสียงใส อายุ 22 ปี และนายเกริกฤทธิ์ สุกงพงษ์พันคำ อายุ 22 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิช่วยกันใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมา
ขณะที่เบาะหน้าของรถ พบคนขับเป็นชาย 1 ราย มีแผลฉีกขาดที่ศีรษะ บาดเจ็บเล็กน้อย รู้สึกตัวดี ทราบชื่อคือนายถิรเดช กุลเขมรังษี อายุ 22 ปี ถัดมาที่ฝั่งคนขับพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย ทราชื่อคือ น.ส.มนชนิตว์ ช่วยบุญ หรือน้ำมนต์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่รู้สึกตัว เจ้าหน้าที่กู้ชีพนครินทร์ นำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน ส่งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ในเวลาต่อมา
ต่อมา เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่า เป็นสี่แยกตัดระหว่างคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยจุดประสบเหตุเป็นลานจอดรถของคณะนิติศาสตร์
จากการตรวจสอบบริเวณแท่งปูนขอบถนนมีร่องรอยยางรถยนต์เป็นรอยดำยาว บริเวณพื้นถนนไม่มีรอยเบรกของรถยนต์ ถัดมาที่บริเวณต้นไม้ของลานจอดรถพบเศษกระจกรถยนต์ติดอยู่กับต้นไม้ และบริเวณโดยรอบยังคงมีเศษชิ้นส่วนของรถยนต์กระจัดกระจาย โดยรถคันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.ย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น
จากการสอบถามนายสหัสวรรษ นาวงศา อายุ 20 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งมาถึงที่เกิดเหตุหลังจากรถของน้ำมนต์ประสบอุบัติเหตุแล้ว โดยพาผู้สื่อข่าวเดินดูร่องรอยที่เกิดเหตุ พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะนั้นตนขับรถผ่านมาพอดี เห็นมีรถคันเกิดเหตุอยู่ริมถนน สภาพพังยับเยินจึงจอดรถและลงมาดู พร้อมกับถ่ายภาพและคลิปเอาไว้ โดยมี รปภ.ที่เข้าเวรอยู่ในขณะนั้นมาดูด้วย ซึ่งตนเองได้เปิดไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือส่องดูในรถ เพื่อตรวจสอบดูว่ามีใครยังมีชีวิตอยู่ หรือเสียชีวิตแล้ว
นายสหัสวรรษระบุอีกว่า พบว่าในรถบริเวณด้านหลัง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ด้านหน้ารถนั้น คนขับยังพอพูดได้บ้าง ส่วนคนที่นั่งข้างคนขับอาการสาหัสหมดสติ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งตนเองได้สอบถามทาง รปภ. บอกว่าก่อนที่ตนเองจะมาถึงที่เกิดเหตุประมาณ 5 นาที ได้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น ได้ยินเสียงรถยนต์พลิกคว่ำหลายตลบจึงออกมาดู และสอบถามคนขับบอกว่ามีรถจักรยานยนต์ตัดหน้าจึงหักหลบแล้วเสียหลักมาชนต้นไม้เข้า
