อัยการนัดฟังคำสั่ง 18 ราษฎร ปักหมุดสนามหลวง ผิดมาตรา 112-116 วันที่ 8 มี.ค.

อัยการนัดฟังคำสั่ง ‘แกนนำราษฎร’ ปักหมุดสนามหลวง 19-20 ก.ย. ผิด 112-116 วันที่ 8 มี.ค.นี้ ส่วนชุดครูใหญ่ที่อัยการกรุงเทพใต้นัด 25 มี.ค. รุดเดินเท้ายื่นประกันตัว ‘เพนกวิน’ กับพวกอีกรอบ

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้นำตัว “รุ้ง” น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, “ไมค์” นายภาณุพงศ์ จาดนอก, “ไผ่” นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง, “จัสติน” นายชูเกียรติ แสงวงศ์, นายธนชัย เอื้อฤาชา, “ครูใหญ่” นายอรรถพล บัวพัฒน์, นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา, นางสุวรรณา ตาลเหล็ก, นายภัทรพงศ์ น้อยผาง, นายณัทพัช อัคฮาด, นายณัฐชนน ไพโรจน์, นายธานี สะสม

นายอดิศักดิ์ สมบัติคำ, นายสิทธิทัศน์ จินดารัตน์, “ฟอร์ด” นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์, นายธนพ อัมพะวัต และ “แอมมี่” ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง จากกรณีการชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เมื่อวันที่ 19-20 กันยายน 2563

ในจำนวนนี้มี 3 คน ที่โดนแจ้งข้อหาตาม ป.อาญา ม.112 คือ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง พร้อมสำนวนเเละความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหามายื่นพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา

Advertisement

โดย น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ แกนนำกลุ่มราษฎร กับพวก เดินทางมาตามนัดที่มีการแจ้งข้อหา ป.อาญา ม.112 และข้อหาอื่น หลังก่อนหน้านี้มี 4 แกนนำ และแนวร่วมกลุ่มราษฎรที่ถูกสั่งฟ้องและไม่ได้รับการประกันตัวต้องเข้าเรือนจำไปแล้ว

บรรยากาศวันนี้มีผู้ชุมนุมและคนใกล้ชิดผู้ต้องหาจำนวนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจด้วย ขณะที่ตำรวจได้วางกำลังรักษาความปลอดภัยโดยรอบสำนักงานอัยการสูงสุด

Advertisement


น.ส.ปนัสยา
เปิดเผยว่า มีโอกาส 80 เปอร์เซ็นต์ ที่จะไม่ได้รับการประกันตัว ถ้ามองจาก 4 คนที่เข้าไปก่อนหน้านี้ เป็นคดีเดียวกันและมาตราเดียวกัน แต่เราก็หวังอีก 20 เปอร์เซ็นต์ ที่กระบวนการยุติธรรมจะอยู่บนหลักการความเป็นธรรม เมื่อวาน (16 ก.พ.) ตนยื่นจดหมายถึงกระบวนการยุติธรรม ให้อนุมานไว้ก่อนว่าจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาล การบอกว่าเกรงจะกระทำผิดซ้ำเหมือนศาลพิพากษาล่วงหน้าแล้ว เรามีสิทธิต้องได้ประกันตัว คดีที่จำเลยถูกข้อหาฆ่าคนตายยังได้ประกันตัว

อ่านข่าว : รุ้งอ่าน จม.หน้าศาลอาญาเรียกร้องปล่อย 4 แกนนำสู้ตามสิทธิรธน. เสียใจคุมมวลชน 13 ก.พ.ไม่ได้ (คลิป)

ด้าน นายภาณุพงศ์ เปิดเผยถึงความรู้สึกหากต้องเข้าเรือนจำว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตัดผมรอแล้ว ถ้าใส่ชุดที่ออกจากคุกวันนั้นได้คงใส่มา แต่เคารพต่อศาล และไม่ฝากอะไรต่อผู้ชุมนุม เราต้องได้ออกไปอยู่แล้ว หรือถ้าไม่ได้ออกไป มวลชนรู้อยู่แล้วว่าต้องเดินหน้าต่อไปอย่างไร

นายภาณุพงศ์ กล่าวอีกว่า แม่ของตนอาจจะขมขื่นใจในการพิจารณาวันนี้ แต่แม่บอกว่าภูมิใจที่ลูกยังอยู่ในสิ่งที่ถูกต้องตามครรลองคลองธรรมที่ควรจะเป็น ไม่มีปัญหา ทุกคนโอเค เป็นกำลังใจที่ดีต่อกัน

ขณะที่ น.ส.ปนัสยา กล่าวเสริมว่า เชื่อว่าอย่างไรก็ได้ออกมา การเคลื่อนไหวของเรายังไม่ถึงจุดจบ ไม่หยุดเพียงเท่านี้ ทุกคนยังเรียกร้องออกมาอยู่ เพราะข้อเรียกร้องของเรายังไม่สำเร็จ

ผู้สื่อข่าวถามถึงจำนวนผู้ชุมนุมที่น้อยลง อาจมีผลต่อแรงกดดัน นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า เราชุมนุมไปเรื่อยๆ ปีก่อนเดือนมกราคมถึงมีนาคมก็ไม่ค่อยมีผู้ชุมนุมออกมา จนเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม คนจึงเริ่มออกมา ตอนนี้ยังมีเรื่องโควิด เราไม่กังวลเรื่องมวลชนน้อยลง ทุกคนออกมามีค่าใช้จ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม บริหารเศรษฐกิจแบบนี้ คนหาเช้ากินค่ำต้องดูแลตัวเองก่อนออกมาชุมนุม แค่ทำมาหากินก็ไม่มีจะกินอยู่แล้ว มีนายกฯห่วย ตอกย้ำซ้ำเติมประชาชน เมื่อถึงจุดนั้นเราจะได้เห็นกันว่าประชาชนไม่ได้หายไปไหน ทุกคนพร้อมสู้

เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวต่อไป หากไม่ได้ประกันตัว นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า ตอนนี้ต่างจังหวัดหลายพื้นที่ติดต่อห้องพักเข้ามาแล้ว รอดูกันต่อไปว่าจะเบิ้มขนาดไหน ไม่ซีเรียสอะไร ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบเหมาะสมกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ตอบโต้กระบวนการที่ไม่เป็นธรรม

ถามถึงความเป็นห่วงเรื่องเหตุรุนแรงจะซ้ำรอยวันที่ 13 ก.พ. 2564 หรือไม่ น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า เราได้มีการถอดบทเรียนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ปัญหามีอะไรบ้าง การชุมนุมครั้งต่อไปการดูแลความปลอดภัยจะรัดกุมขึ้น คิดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกหรือน้อยมาก

ส่วน นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า เราเข้าใจความโกรธของมวลชนทุกคน เรารู้ว่าทนไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราอยากจะบอกว่าทุกคนคือพวกของเรา ทุกอย่างเกิดจากความโกรธที่เจ้าหน้าที่รัฐริเริ่มก่อน เรานั่งคุยกันต่อไปว่าต้องมีทีมสันติวิธีในการควบคุมแนวข้างหน้า

เมื่อถามถึงสิ่งที่อยากบอกตำรวจที่ใช้ความรุนแรงเหมือนกัน และกรณีชายหัวเกรียนใส่ชุดไปรเวทหลังแนวตำรวจ นายภาณุพงศ์ ระบุว่า เขาเรียนมาให้มีระเบียบวินัย รับใช้ประชาชน สอนกันด้วยว่าคนคืออะไร เห็นตราสัญลักษณ์หน่วยแพทย์ไม่ควรทำร้าย ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ควรปฏิบัติหน้าที่ละมุนละม่อม ไม่ใช่ทำร้ายร่างกาย

“หลายคลิปที่ออกมาคนไร้บ้านก็โดนทำร้าย คนไม่มีอาวุธโดนกระบองฟาด ตำรวจควรเป็นคนมากกว่านี้” นายภาณุพงศ์กล่าว

ส่วนการชุมนุมวันที่ 20 ก.พ. 2564 จะเป็นที่สนามหลวงแห่งเดียวหรือไม่ น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า ถ้าวันนี้เราไม่ได้ออกมา จะปล่อยให้เป็นเรื่องของทีมที่อยู่ต่อจะบอกอีกที

ทิ้งท้ายถามถึงจุดยืนของสถานทูตเป็นอย่างไรต่อ ม.112 ในปัจจุบัน และมีใครคิดจะลี้ภัยหรือไม่ น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า ไม่ทราบชัดเจนว่าสถานทูตแต่ละที่คิดอย่างไร เราจะเห็นตามข่าวเหมือนทุกคน ส่วนเรื่องลี้ภัยไม่ได้ยินว่ามีใครคิดจะลี้ภัย

ทั้งนี้ ภายหลังพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาให้พนักงานอัยการคดีอาญาพิจารณาแล้ว ทางพนักงานอัยการได้นัดฟังคำสั่งคดีครั้งแรกในวันที่ 8 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น.

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่า วันนี้ที่สำนักงานอัยการรัชดา ผู้ต้องหามาครบทุกคน ยกเว้นนายจตุภัทร์ โดยได้รับการประสานว่าอยู่ระหว่างเดินทาง ซึ่งทางพนักงานอัยการก็นัดฟังคำสั่งอีกวันที่ 8 มี.ค.64

อ่านข่าว : เริ่มแล้ว ‘เดินทะลุฟ้า’ จากโคราชถึงกรุงเทพฯ ‘ไผ่ ดาวดิน’ ลั่น ไม่มีวันหันหลังกลับ จนกว่าจะปล่อยเพื่อนเราให้หมด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image