เริ่มแล้ว ‘เดินทะลุฟ้า’ จากโคราชถึงกรุงเทพฯ ‘ไผ่ ดาวดิน’ ลั่น ไม่มีวันหันหลังกลับ จนกว่าจะปล่อยเพื่อนเราให้หมด

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณลานอนุสรณ์วีรชนคนโคราช ข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ราษฎร นำโดย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน พร้อมด้วยแนวร่วมกลุ่ม People GO network จัดกิจกรรม “เดินทะลุฟ้า” เดิน 247.5 กิโล จากโคราช-กรุงเทพฯ เพื่อขับไล่รัฐบาล และเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำคณะราษฎร 4 คน ที่โดนคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยมี “ทราย เจริญปุระ” ร่วมอยู่ในขบวนครั้งนี้ด้วย ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองนครราชสีมา ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 40 นาย กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย

ทั้งนี้ ก่อนเดินขบวนได้มีการอ่านแถลงการณ์ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการเดินทางเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวแกนนำราษฎร 4 คน และข้อเรียกร้อง 3 ข้อคือ 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวก ต้องลาออกจากรัฐบาล 2.ให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญและแก้รัฐธรรมนูญตามข้อเสนอจากประชาชน และ 3.ปฏิรูปสถาบัน

หลังจากนั้นคณะทั้งหมดได้จัดขบวนเดินไปบนถนนราชดำเนิน เลี้ยวเข้าสู่ถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ โดยมีการถือธงสีส้มข้อความ “ปล่อยเพื่อนเรา และต้องไม่จับเพิ่ม” โบกไปตลอดเส้นทาง

Advertisement

นายจตุภัทร์กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ใช้ชื่อว่า “เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน” ซึ่งมีกำหนดจะเดินทางเป็นระยะทาง 247.5 กิโลเมตร เฉลี่ยวันละ 16 กิโลเมตร โดยใช้ระยะเวลา 15 วัน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่รอคอย นับตั้งแต่การเดินมิตรภาพก้าวแรกเมื่อต้นปี 2561 เพื่อปลดปล่อยเสรีภาพประชาชนที่ถูกคุมขังโดยรัฐบาลเผด็จการทหาร คสช. วันนี้คือก้าวที่ 2 ที่เสรีภาพของเพื่อนเราถูกคุมขังจองจำจากการออกมาเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญและปฏิรูปสถาบัน ทั้งๆ ที่ศาลควรยึดหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ถูกกล่าวหานั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด หรือให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุด ผู้ต้องหาหรือจำเลยหรือบุคคลใดได้ทำกระทำความผิดจะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ อันเป็นหลักการพื้นฐานที่สำคัญในการดำเนินคดีที่ถูกบัญญัติไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ

นายจตุภัทร์กล่าวว่า ดังนั้น คำสั่งไม่ให้ประกันตัว โดยที่กระบวนการยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น และยังไม่มีคำพิพากษาอันถึงที่สุด จึงขัดกับบทบัญญัติอันเป็นหลักการพื้นฐานที่สำคัญยิ่งในกฎหมายรัฐธรรมนูญ เราจึงมาร่วมเดินก้าวที่สองเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยเพื่อนเรา ราษฎรทั้ง 4 คนที่ถูกกักขังจองจำไปแล้ว และต้องไม่จับเพิ่มอีก 24 คน ที่คาดว่าจะถูกจองจำในวันพรุ่งนี้ และที่จะเพิ่มขึ้นอีกตามจำนวนผู้ถูกกล่าวหาโดยมาตรา 112 ไปแล้วถึง 58 ราย

Advertisement

นายจตุภัทร์กล่าวว่า การเดินเพื่อรณรงค์บอกเล่าถึงรากเหง้าของปัญหาที่เพื่อนเราถูกดำเนินคดีกลั่นแกล้งจากการใช้สิทธิและเสรีภาพอันพึงมี เพื่อขอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกหมวด ทุกมาตรา ในขณะที่เราเดินอยู่ที่นี่ ระยะทาง 247.5 กิโลเมตร จากโคราชถึงกรุงเทพฯ เราขอส่งกำลังใจไปถึงพี่น้องบางกลอยที่กำลังต่อสู้อยู่กับการถูกรุกไล่ออกจากใจแผ่นดิน ขอให้ประสบผลสำเร็จ


“หากมีผลตรงข้ามกัน ก้าวที่ 3 ของเรา เราจะเดินไปให้ถึงใจแผ่นดิน เพื่อปกป้องพี่น้องบางกลอยให้กลับไปอยู่ที่ใจแผ่นดินอย่างสุขสงบ

“เราได้ตระหนักอย่างถ่องแท้ว่า การต่อสู้เคลื่อนไหวของราษฎรที่ผ่านมา และที่กำลังเป็นอยู่ คือการระเบิดสังคมไทยเข้าสู่ยุคแสงสว่างทางปัญญา ซึ่งเป็นห้วงเวลาอันสำคัญที่จะทำให้บ้านเมืองเราไม่หันหลังกลับเข้าสู่ยุคมืดอีกต่อไป

“ขอให้พี่น้องและราษฎรทุกท่านจงมาร่วม ‘เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน’ กับเรา เราจะไม่มีวันหันหลังกลับจนกว่าจะปล่อยเพื่อนเราให้หมด จงมาร่วมเดินเพื่อสิทธิ เสรีภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน อันเสมือนเป็นใจแผ่นดินของประชาชนทุกผู้ทุกคน” นายจตุภัทร์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image