เปิดใจ! เหยื่อแชร์ Milk Milk ทำใจอาจไม่ได้เงินคืน อึ้งมีบ้านออมเงินมากถึง 70 วง

เปิดใจ! เหยื่อแชร์ Milk Milk ทำใจอาจไม่ได้เงินคืน อึ้งมีบ้านออมเงินมากถึง 70 วง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าของคดีท้าวแชร์บ้านออมเงิน Milk MilK ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อายุเพียง 22 ปี ที่ถูกหลอกลวงชักชวนร่วมลงทุนออมเงินผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก โดยมีผู้เสียหายจากทั่ว จ.พิษณุโลก ไม่ต่ำกว่า 300 ราย

และผู้เสียหายจากภูมิภาคอื่นๆ อีกจำนวนมาก สูญเงินรวมกันมูลค่าไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท โดยหลังจากนั้นผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับท้าวท้าวแชร์บ้านออมเงิน Milk MilK โดยในการจูงใจให้ร่วมลงทุนนั้นมีหลายแบบ อาทิ ราย 10 วัน ราย 20 วัน ราย 30 วัน ออม 1,000 รับ 1,150 ออม 10,000 รับ 13,000 ออม 70,000 รับ 91,000 เป็นต้น

ล่าสุด พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า คดีนี้เข้านิยามของความผิดตามพ.ร.บ. กู้เงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนซึ่งความผิดตรงนี้มัน คือการที่เอาเงินของสมาชิก มาจ่ายกับสมาชิกอื่นๆแบบวนไปวนมา โดยที่ให้ให้ค่าตอบแทนสูงกว่าสถาบันทางการเงิน จากการตรวจพบว่า ผู้ต้องหาก็ไม่ได้มีอาชีพอะไร ที่จะสามารถนำเงินมาจ่ายคืนให้กับผู้เสียหาย

ซึ่งถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.ก. กู้เงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตรงนี้ก็ได้ประสานกับผู้เสียหายให้แต่ละคนรวบรวมหลักฐานที่ตัวเองเสียเสียหายไป อาทิใบเสร็จ สลิปการโอนเงิน หน้าจอที่แคปในการพูดคุย เพื่อจะให้ร้อยเวรสอบปากคำดูความเสียหายที่เกิดขึ้น ว่าจะสูญเสียเท่าไหร่ตามความเป็นจริง

Advertisement

ขณะที่ชุดสืบสวน ก็ได้ลงพื้นที่ลงพื้นที่ในการตรวจสอบผู้ต้องหา พบว่า ยังอยู่ในพิษณุโลก ยังไม่มีการหลบหนีแต่อย่างใด และคาดว่าจะตั้งหลักเพื่อเข้ามาชี้แจงในภายหลัง นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สั่งทำการอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาแล้ว และหลังจากนี้จะเชิญผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมออกหมายเรียก อีกครั้ง หากไม่มาก็จะออกกฎหมายจับทำตามกฎหมายต่อไป

ด้าน นายฤทธิพร ก้อนคำ อายุ 33 ปี อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งเป็นตัวแทนผู้เสียหาย พร้อมด้วย นางภารดี ประสานสุข อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยความรู้สึกว่า หลังจากรวมตัวกันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ตอนนี้รู้สึกอุ่นใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งทำคดีให้ ถึงแม้จะอายัดบัญชีท้าวแชร์แล้ว แต่ก็พบทราบมาว่าในบัญชีธนาคารถูกถ่ายโอนไปแล้วเกือบหมด

ความหวังที่จะได้เงินลงทุนกลับคืนมาก็ริบหรี่ ตอนนี้ผู้เสียหายทุกคนล้วนทำใจ เพียงแต่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการติดตามตัวท้าวแชร์รายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่ผ่านมายอมรับว่าเห็นผลตอบแทนกำไรมากจึงหาเงินมาลงทุนเยอะ ไม่คิดว่าบ้านออมเงินจะล่ม

ตอนนั้นท้าวแชร์บอกจะรับผิดชอบโดยการนำทองคำแท่งมาประมูลให้กับลูกแชร์ สุดท้ายก็เงียบหายไปไม่ได้คืนเงินอย่างที่รับปากเอาไว้ บางคนเป็นเพียงนักศึกษาก็ไปหยิบยืมเงินผู้ปกครองมาลงทุนมากถึงล้านบาท นอกจากนี้ท้าวแชร์ก็ยังเปิดบ้านออมเงินมากถึง 70 วง มีบัญชีธนาคารให้เลือกโอนประมาณ 5 ธนาคาร

จึงอยากฝากเตือนไปยังผู้ที่คิดจะลงทุนกับบ้านออมเงินหรือบ้านแชร์ทุกชนิด แชร์ประเภทนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกโกง เพราะวันหนึ่งก็เหมือนกับงูกินหางสักวันบ้านก็ต้องล้ม ท้าวแชร์หาเงินมาหมุนคืนให้กับลูกแชร์ไม่ได้ ทางที่ดีอย่าเล่นดีที่สุด ขณะนี้พวกตนก็ได้สร้างกลุ่มสำหรับผู้เสียหายทั้งใน จ.พิษณุโลก และ ผู้เสียหายจังหวัดอื่นๆ เพื่อติดต่อข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าทางคดี เพื่อรวบรวมหลักฐานทั้งข้อมูลธนาคาร สลิปโอนเงินต่างๆ และหลักฐานการข่มขู่จากผู้ไม่หวังดี ก่อนส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ประกอบสำนวนคดี เพื่อดำเนินคดีกับท้าวแชร์รายนี้ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image