กรมพินิจฯแจงเหตุ เยาวชนหลบหนีสถานพินิจ ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้าย ไม่เป็นความจริง มีวงจรปิดบันทึกภาพ

กรมพินิจฯ แจงเหตุ เยาวชนหลบหนีสถานพินิจ ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้าย ไม่เป็นความจริง มีวงจรปิดบันทึกภาพ

ตามที่มีการร้องเรียนไปยังมูลนิธิปวีณาและปรากฏตามสื่อต่างๆ ที่เกี่ยวกับเยาวชนที่อยู่ในความดูแลของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง สังกัด กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างควบคุมตัว เมื่อวันที่ 2-3 มีนาคม 2564 นั้น

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงว่า สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนได้รับตัวเยาวชนรายดังกล่าว ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ควบคุมตัวตามมาตรา 132 วรรคสอง มีกำหนดเวลา 6 เดือน เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 โดยสถานพินิจฯ จัดให้เยาวชนเข้าพักในห้องควบคุมเพื่อแยกโรคตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จำนวน 14 วัน เยาวชนให้ถ้อยคำว่าเมื่อวันที่ 2-3 มีนาคม 2564 เยาวชนและเพื่อนอีก 1 คนที่ควบคุมตัวด้วยกันถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายด้วยการเตะที่หน้าอก จนเยาวชนรู้สึกจุกและเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำโดยมีเลือดปนออกมาด้วยแต่ไม่ได้แจ้งให้ผู้ใดทราบ ซึ่งในวันดังกล่าวมีเยาวชนในห้องกักตัว อีก 3 คน

โดยทั้งหมดต่างยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์การทำร้ายจากเจ้าหน้าที่เกิดขึ้น ต่อมาวันที่ 25 มีนาคม 2564 เวลา 00.05 น. เยาวชนและเพื่อนรวม 3 ราย  ได้หลบหนีออกจากสถานที่ควบคุมหลังจากที่ได้ถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 23 วัน โดยสามารถติดตามตัวกลับมาได้ 1 ราย ในวันที่ 26 มีนาคม 2564 และอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อมารดาของเยาวชน เมื่อเวลาประมาณ 04.51 น. และทราบว่าเยาวชนติดต่อกับมารดาทางกล่องข้อความในเฟสบุ๊ค จึงแจ้งมารดาให้นำตัวเยาวชนส่งให้สถานพินิจ ซึ่งมารดายังไม่ได้ส่งมอบตัวเยาวชน

ต่อมาเจ้าหน้าที่สถานพินิจได้ประสานทำความเข้าใจกับตายายของเยาวชนเพื่อให้มารดาส่งมอบตัวเยาวชน จนกระทั่งสามารถตกลงได้ว่าจะทำการส่งมอบเยาวชนให้ที่บ้านพักของเยาวชน ต่อมาแต่เมื่อถึงเวลาส่งมอบตัว เจ้าหน้าที่ของสถานพินิจได้ไปรอที่บ้านพัก มารดาได้พาเยาวชนมาที่บ้านพักด้วยรถยนต์ เมื่อมาถึงที่บ้านพักแล้วเยาวชนได้หลบหนีไปอีก ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่รับตัว

Advertisement

ต่อมาเวลาประมาณ 18.00 น. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยองว่า ผู้ปกครองของเยาวชนได้ไปร้องต่อมูลนิธิปวีณาว่าเยาวชนถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกาย และประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง จึงประสานผู้อำนวยการสถานพินิจเพื่อขอทราบข้อเท็จจริง จึงได้ให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลบหนีของเยาวชนให้ทราบถึงพฤติการณ์การหลบหนี ตั้งแต่การกระโดดจากหอนอนซึ่งอยู่ชั้น 2 ของอาคาร ปีนข้ามรั้วตาข่ายแล้วหนีไป

จากนั้นถูกติดตามตัวเป็นเวลากว่า 16 ชั่วโมง ร่างกายของเยาวชนย่อมอยู่ในสภาพอ่อนเพลีย ซึ่งหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยองและผู้ปกครองได้นำตัวเยาวชนเข้ารับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลระยองโดยละเอียดและแพทย์ให้เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน

กรณีดังกล่าว กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 1 ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2564  ทางผู้อำนวยการศูนย์ฝึกฯ ได้เข้าไปดูแลการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และขอเรียนว่าในห้องควบคุมที่เยาวชนได้รับการควบคุมตัวอยู่นั้นมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพตลอดเวลา เพื่อควบคุมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มิให้กระทำการอันใดเพื่อเป็นการละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชน

Advertisement

พร้อมทั้งใช้ในการตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการดูแลเรื่องอาหารและน้ำดื่มให้เยาวชนและเฝ้าระวังการเจ็บป่วยของเด็กและเยาวชนตลอด 24 ชั่วโมง กรณีที่เยาวชนร้องเรียนนี้

จากการสอบข้อเท็จจริง ปรากฏหลักฐานจากการตรวจสอบภาพเคลื่อนไหวของกล้องวงจรปิดและสอบถามข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยเยาวชนที่อยู่ในห้องควบคุมตัวเดียวกันกับเยาวชนและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง

ไม่ปรากฏเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายดังกล่าวแต่อย่างใด ประกอบกับเพื่อนเยาวชนที่อยู่ในห้องควบคุมตัวห้องเดียวกันกับเยาวชนตลอดเวลาได้ยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น รวมทั้งสภาพของห้องควบคุมเป็นห้องเปิดโล่ง ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ครอบคลุมในจุดที่มองเห็นเยาวชนทำกิจกรรมในห้องควบคุมตลอดเวลา

และภาพปรากฎชัดเจนว่าได้มีการจัดอาหารและน้ำดื่มให้เยาวชนที่อยู่ในห้องควบคุมตัวทุกคน ทุกวัน วันละ 3 มื้อ พร้อมนมวันละ 1 กล่อง นอกจากนี้ระหว่างการควบคุมตัวในห้องควบคุม เยาวชนได้รับการเยี่ยมญาติทางไกลผ่านจอภาพ จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งเป็นไปสิทธิพื้นฐานและมาตรฐานการดูแลเด็กและเยาวชนของกรมพินิจฯ

กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนขอยืนยันว่า สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน รวมถึงศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนทุกแห่ง ได้ปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรมโดยคำนึงถึงสิทธิและสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนภายใต้มาตรฐานสากลในการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม และเป็นไปตามหน้าที่ตามกฎหมายโดยเคร่งครัด

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image