วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณีที่ชาวกัมพูชาไม่น้อยกว่า 300 คน ลุกฮือเข้าทำร้าย ขว้างปาขวดน้ำก้อนหิน ใส่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้รับบาดเจ็บและพลิกคว่ำทุบรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ ได้รับความเสียหาย หลังจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ บุกเข้าจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ตามแผงขายสินค้าในตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 นั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ สามารถจับกุมผู้ร่วมกระทำผิด ที่มีผู้อยู่ในเหตุการณ์ ถ่ายคลิปไว้ได้ จำนวน 2 คน คือ นายสมโอน กง อายุ 22 ปี เจ้าของร้านขายที่นอน บริเวณล็อก ซี ภายในตลาดโรงเกลือและนายสัยหา ยิม อายุ 23 ปีเจ้าของร้านขายเครื่องมือรถ บริเวณล็อกซี ในตลาดโรงเกลือเช่นเดียวกัน จากการสอบสวน ชาวกัมพูชาทั้งคนให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการทุบรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจริง เจ้าหน้าที่จึงทำเรื่องขอหมายจับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และศาลในวันรุ่งขึ้น วันที่ 4 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ได้ส่งฟ้องศาลจังหวัดสระแก้ว และศาลตัดสิน จำคุก ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คนละ 3 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
จากเหตุการณ์ ที่ชาวกัมพูชารุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ และทุบทำลายรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ในตลาดโรงเกลือ ทำให้ชาวกัมพูชาต้องรีบปิดร้านและรีบเดินทางกลับฝั่งกัมพูชาตั้งแต่หัวค่ำ ซึ่งตามปกติชาวกัมพูชาที่ทำการค้าในตลาดโรงเกลือ จะเดินทางกลับ หลังเวลา 18.00 น.
ต่อมาในวันรุ่งขึ้น ของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ มีชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามาทำการค้าในตลาดโรงเกลือน้อยมาก โดยเฉพาะตลาดอาคารสีฟ้า อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของตลาดโรงเกลือ จะปิดร้านทั้งหมด ส่วนตลาดอื่นมีเปิดบ้างประปราย ประมาณร้อยละ 30 ของตลาดโรงเกลือทั้งหมด ร้านที่เปิดขายส่วนใหญ่เป็นร้านขายเสื้อผ้า ผ้าห่ม ส่วนร้านที่ขายกระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง ปิดทุกร้าน
จนล่าสุดในวันนี้ มีชาวกัมพูชาเดินทางมาเปิดร้านค้าในตลาดโรงเกลือเหมือนปกติ ยกเว้นตลาดอาคารสีฟ้า ยังปิดร้านทั้งหมด มีเพียงเจ้าของร้านนั่งอยู่หน้าร้าน เพื่อสังเกตการณ์ว่า จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมหรือไม่ ในขณะเดียวกัน มีหลายร้านได้ขายแบบเลหลัง เพื่อให้สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์หมดจากสต๊อก จะได้ไม่มีปัญหาในเรื่องลิขสิทธิ์อีก
ส่วนทางด้าน ร.ต.ท.วิญญู ปัญญาวีรพร ร้อยเวร สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แจ้งว่า ขณะนี้กำลังทำเรื่องออกหมายจับผู้กระทำผิดเพิ่มอีก ส่วนจะมีใครบ้างนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผย
สำหรับบรรยากาศทั่วไป ในตลาดโรงเกลือ ชาวกัมพูชายังหวาดกลัวเจ้าหน้าที่ไทยอยู่ และชาวกัมพูชาเข้ามาเปิดร้าน ประกอบการค้า ประมาณร้อยละ 70 แล้ว ส่วนพ่อค้าและนักท่องเที่ยวคนไทย สามารถเดินหาซื้อสินค้าได้ตามปกติ ยกเว้นอาคารสีฟ้าด้านทิศตะวันออกของโรงเกลือประมาณ 100 ห้อง เป็นอาคารที่ขายจำพวกรองเท้า กระเป๋า และเครื่องหนังอื่นๆ