ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2559 พล.ต.ต.ปรัชญ์ชัย ใจชาญสุขกิจ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม แถลงข่าวการจับกุมนายบุญฤทธิ์ แสงทับทิม อายุ 21 ปีอยู่บ้านเลขที่ 897 หมู่ 3 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังนายบุญฤทธิ์ แอบอ้างใช้รูปของ พล.ต.ต.ปรัชญ์ชัย ทั้งในและนอกเครื่องแบบเป็นรูปโปรไฟล์ลงในเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อว่าเสี่ยโจมหากาฬ นอกจากนี้ยังนำรูปดังกล่าวไปลงตามสถานที่ต่างๆ ที่นายบุญฤทธิ์เดินทางไปท่องเที่ยว ทำทีว่านายบุญฤทธิ์เป็นเจ้าของภาพดังกล่าว เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนยาวขนาด .22 หรือปืนลูกกรดในเฟซดังกล่าวราคา 15,000 บาท โดยให้ผู้สนใจทักเฟซบุ๊กมาและพูดคุยกันทางเฟซบุ๊ก เมื่อตกลงราคากันได้ก็จะให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ชื่อนายบุญฤทธิ์ แสงทับทิม
โดยผู้เสียหายหลงเชื่อเนื่องจากโปรไฟล์เป็นรูปพลตำรวจตรีปรัชญ์ชัย รวม 2 ราย รายแรกคือจ่าสิบเอกไพรัช สลุง อายุ 38 ปี สังกัดค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน จ.สมุทรสาคร สูญเงินจำนวน 15,000 บาท และนายอำนาจ บุญสวัสดิ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 4 ตำบลดอนคา อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ได้ติดต่อพูดคุย ต่อรอง และตกลงซื้อปืนดังกล่าวในราคา 12,000 บาท เมื่อโอนเงินผ่านบัญชีแล้วได้ติดต่อกับไปยังเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งให้เบอร์โทรศัพท์หมายเลข 09-9023-4970 แต่ไม่สามารถติดต่อได้ปิดเฟซบุ๊กดังกล่าวไป จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.บางแพ จ.ราชบุรี จนทราบว่ารูปดังกล่าวไม่ใช่เสี่ยโจ แต่เป็น ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม จึงได้โทรศัพท์มาสอบถามกัน นายอำนาจจึงทราบว่าตนถูกหลอกแน่นอน
พล.ต.ต.ปรัชญ์ชัยกล่าวว่า เมื่อตนทราบเรื่องจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ไวยวุฒินันท์ ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสงคราม และชุดสืบสวนออกหาข่าวจนทราบว่ามีการโอนเงินไปที่บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อนายบุญฤทธิ์ แสงทับทิม จึงตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่าระหว่างวันที่ 1-23 ส.ค.2559 ที่ผ่านมามีการโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว 58,300 บาท จึงขออนุมัติต่อศาลจังหวัดสมุทรสงคราม และติดตามไปจับกุมได้ในพื้นที่หมู่ 3 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงขอให้ประชาชนที่ถูกหลอกจำหน่ายสินค้าในเฟซลักษณะนี้ เนื่องจากนายบุญฤทธิ์รับสารภาพว่าทำในลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้ว จึงขอให้ติดต่อได้ที่ ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม หรือที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป ด้านนายอำนาจ บุญสวัสดิ์ อายุ 36 ปี หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่าในเฟซดังกล่าวมีปืนหลายชนิดให้เลือก ซึ่งเจ้าของเฟซอ้างว่ามีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ตนจึงหลงเชื่อจนสูญเงินไป 12,000 บาท
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายบุญฤทธิ์ให้การว่าเดิมขายไก่ทางเฟซบุ๊กที่บ้านพักจังหวัดพิษณุโลก ต่อมาเห็นว่าช่องทางนี้ทำให้ขายได้ดีแต่ได้เงินน้อย จึงคิดหาเงินให้มากขึ้นจึงพบกับรูปของ พล.ต.ต.ปรัชญ์ชัย เห็นว่าเท่และใส่ชุดตำรวจดูน่าเชื่อถือ แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร จึงนำมาเป็นรูปโปรไฟล์ลงในเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อว่าเสี่ยโจมหากาฬ และหารูปปืนในอินเตอร์เน็ตมาลงเพื่อหลอกจำหน่ายปืน เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายส่วนตัวและเที่ยวเตร่ เมื่อได้เงินมาแล้วก็จะปิดเฟซหนี กระทั่งมาถูกจับกุม พล.ต.ต.ปรัชญ์ชัย ในฐานะผู้เสียหายจึงแจ้งข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและประชาชน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ดำเนินคดีต่อไป ส่วนคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงนายอำนาจแจ้งความที่ สภ.บางแพ จ.ราชบุรี