วันที่ 29 สิงหาคม ความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้รถโรงพยาบาล ก่อเหตุคาร์บอมบ์บริเวณด้านหน้าประตูเข้าโรงแรมเซาท์เทิร์นวิว ปัตตานี จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 29 ราย เมื่อกลางดึกวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดจากการซักถามขยายผลของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ ยังคงไม่มีการรายงานความคืบหน้าการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว แต่ยังคงมีการควบคุมตัวและดำเนินกรรมวิธีซักถามข้อมูลแวดล้อมต่างๆ ที่อาจพบความเชื่อมโยง แต่หากไม่พบก็จะต้องปล่อยให้ผู้ต้องสงสัยกลับ เนื่องจากครบกำหนดการควบคุมตัวภายใน 7 วัน ภายใต้การใช้กฏอัยการศึก ซึ่งตรงกับวันที่ 30 ส.ค.นี้
โดยรายงานระบุว่า แนวทางการสอบสวนยังคงมุ่งเป้าไปที่ 2 คนร้ายตามภาพวงจรปิด โดยการเทียบเคียงเบื้องต้น ชุดคลี่คลายคดีระบุ 1 ใน 2 คนร้ายมีหน้าตาเหมือนกับผู้ต้องหาหมายจับ ป.วิอาญา เคยก่อเหตุลอบวางระเบิดมาแล้วหลายครั้งทั้งในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทั้งนี้ ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอจากที่เกิดเหตุก่อนจะสามารถระบุตัวบุคคลได้
พล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พล.ต.โภชน์ นวลบุญ ผบ.กองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนใต้ เดินทางตรวจเยี่ยมให้กำลังใจลูกจ้างพนักงานและเจ้าของโรงแรมจากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ โดยกล่าวขอให้ทุกคนจงช่วยกันดูแลกันและกัน และยืนหยัดที่จะดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้อย่างเข้มแข็ง ถึงแม่จะมีเหตุการณ์ และขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแลป้องกันเหตุร้ายต่างๆ และวันนี้อยากให้ทุกคนหันมาร่วมมือร่วมใจกันและขอให้อย่าเพิ่งหมดกำลัใจ ขอให้สู้ต่อไป พร้อมกันนี้ยังได้จัดเจ้าหน้าที่ทหารออกให้ความรู้และทดลองวิธีการใช้ถังดับเพลิงได้จริงด้วยตนเอง เพื่อช่วยในการระงับเหตุในเบื้องต้น ทั้งนี้จากการตรวจสอบผลการใช้อุปกรณ์เครื่องมือดับเพลิง พบมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ พนักงานและลูกจ้างไม่รู้วิธีการใช้งาน จึงทำให้เหตุการณ์หลายครั้งสามารถใช้ถึงดับเพลิงระงับเหตุได้ไม่ถูกนำมาคิดใช้ป้องกันขั้นต้น
ด้านนายอับดลรอนี ยีกับจี พนักงานโรงแรม กล่าวว่า พนักงานและลูกจ้างของโรงแรม 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นคนในโดยรอบบริเวณของโรงแรม มีชาวไทยมุสลิมกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือนับถือศาสนาพุทธ เราทำงานด้วยกัน กับเหตุการระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นมีความเสียใจมาก แต่เมื่อเกิดแล้วเราก็จะต้องสู้ อยู่กับมันให้ได้ เราต้องพร้อมเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้ โดยเจ้าของโรงแรมเองบอกว่าเราจะต้องเดินไปด้วยกันให้ได้ เราจะต้องกลับมายิ่งใหญ่ให้ได้ ทุกคนยังคงมีภาระหน้าที่เลี้ยงดูครอบครัว แต่โชคดีที่ทางเจ้าของโรงแรมท่านไม่ทิ้งเรา บอกว่าจะยังคงจ้างและไปด้วยกัน
ขณะที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ได้มีคำสั่งด่วนที่สุดถึงหน่วยปฏิบัติการกด้านความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง รับทราบวันสำคัญที่กลุ่มก่อเหตุรุนแรงมักนำมาใช้ในการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายและก่อเหตุรุนแรง หมายสังหารเจ้าหน้าที่ โดยให้มีการเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังป้องกันที่มั่น ประชาชนกลุ่มเสียง วัด โรงเรียน สถานที่ราชการต่างๆ ในห้วงวันใกล้วันครบรอบวันชาติมาเลเซียในวันที่ 31 ส.ค. ไปจนถึงวันที่ 2 ก.ย.ที่เป็นวันนัดเจรจาระหว่างกลุ่มผู้แทนจากรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้เห็นต่าง เพื่อหาจุดกลางในการจะเดินหน้าเจรจาสันติภาพ โดยวันเชิงสัญลักษณ์ดังกล่าว ทุกครั้งที่ผ่านมามักมีกลุ่มบุคคลออกมาติดป้ายแสดงข้อความเรียกร้องและกล่าวหาความพยายามการแก้ไขปัญหกาของรัฐบาลไทย รวมไปถึงการนำธงชาติมาเลเซียออกมาติดตามถนน โดยทุกครั้งต้องมีการวางวัตถุต้องสงสัยและระเบิดลวงเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก่อนจะจุดฉนวนหวังสร้างสถานการณื จึงมีคำสั่งให้เฝ้าระวังตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.- 3 ก.ย. และให้จัดชุดติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วม หากมีรายงานต้องเข้าตรวจพิสูจน์ทราบทันที