ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่หน้า สภ.เมืองขอนแก่น นายสมคิด หอมเนตร คณะกรรมการเครือข่ายต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ประจำ จ.ขอนแก่น ได้นำผู้เสียหายในคดีฉ้อโกง นำเอกสารหลักฐานพยานเพิ่มเติมมามอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น รวมไปถึงการให้ปากคำ หลังมีผู้เสียหายจากการถูกฉ้อโกงและหลอกลวงรวม 15 รายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดย น.ส.ศุภนุช ทะสา นักธุรกิจอายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222/10 หมู่ 6 ต.โนนสะอาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่นได้เรียกตัวผู้เสียหายวันนี้ 3 รายมาให้ปากคำและนำเอกสารหลักฐาน หลังจากเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับนายทหารยศพันเอก (พ.อ.) ปัจจุบันยังคงรับราชการทหารอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ พร้อมแฟนสาวที่หลอกลวงให้ร่วมลงทุนค้าส่งโทรศัพท์มือถือก่อนโกงเอาเงินไป
เฉพาะของตนเองสูญเงินไปรวม 28,000,000 บาท และเมื่อสอบถามผู้ที่ถูกนายทหารและแฟนสาวโกงไปนั้นรวมทั้งหมด 15 ราย คิดเป็นเงินรวมกว่า 72,500,000,000 บาท ทั้งนี้ในการร่วมลงทุนดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือน เม.ย.2557 ซึ่งมีคนแนะนำให้รู้จักกับ น.ส.น้ำฝน งดงาม ชาว อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ก่อนจะชักชวนให้ร่วมทำธุรกิจร่วมกับนายทหารยศ พ.อ. ซึ่งเป็นเพื่อนชายคนสนิท โดยเป็นการทำธุรกิจเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือในประเภทของการค้าส่งโทรศัพท์
“เมื่อมีการพูดคุยกันแล้ว นายทหารยศ พ.อ.และ น.ส.น้ำฝนก็บอกว่าทั้งครอบครัวทำธุรกิจโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ซึ่งขอนแก่นเปิดให้บริการอยู่ที่ถนนกัลปพฤกษ์ ซ.กังสดาล ข้างมหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงหลงเชื่อและร่วมลงทุนด้วย โดยเงินที่ลงทุนไปนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนเงินและระยะเวลาของการลงทุน แบ่งเป็นวันต่อวัน, 5 วัน, 7 วัน และ 15 วัน โดยมีการปันผลในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ซึ่งผู้ต้องหาบอกว่าถ้าลงทุน 1,000,000 บาท รอบ 1 วัน จะได้ทั้งทุนและกำไรจำนวน 1,050,000 บาท แต่ถ้ารอบ 15 วัน จะได้ทุนและกำไรคืนจำนวน 1,120,000 บาท เมื่อเห็นว่ามีกำไรดีจึงหลงเชื่อและชวนสามีญาติพี่น้องมาร่วมลงทุนด้วย โดยนำเงินส่วนตัวร่วมทุน 28,000,000 บาท ตั้งแต่เดือน เม.ย.2557-ก.ย.2558 และยังชักชวนญาติพี่น้องมาร่วมลงทุนด้วย ครอบครัวของตนและญาติ สูญเงินไปรวมกว่า 51,000,000 บาท”
น.ส.ศุภนุชกล่าวอีกว่า เริ่มสงสัยความผิดปกติเมื่อช่วงปลายปี 2558 เริ่มได้กำไรบ้างไม่ได้กำไรบ้าง และพยายามติดต่อผู้ต้องหาทั้ง 2 กลับถูกบ่ายเบี่ยง ก่อนที่ นายทหารยศ พ.อ.จะเข้ามาเจรจาขอเคลียร์ แต่ก็ไม่มีการคืนเงินใดๆ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น และยื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง สำนักงานเลขานุการกองทัพบกเพื่อให้ช่วยเหลือจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า คดีดังกล่าวมีการกล่าวหาข้าราชการระดับสูงเกี่ยวข้องในการฉ้อโกงประชาชนมูลค่าความเสียหาย 72.5 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสอบปากคำผู้เสียหาย โดยมอบหมายและแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบเนื่องจากมีผู้เสียหาย 145 ราย ขณะนี้ พ.ต.อ.วิเศษ ภักดีวุฒิ และ พ.ต.อ.ธิติพงศ์ มงคลศรี พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองขอนแก่นอยู่ในระหว่างการสอบปากคำและรวบรวมเอกสารพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งหมด และเตรียมที่จะเรียกผู้ที่ถูกกล่าวหามาให้ปากคำ ซึ่งแม้จะเป็นข้าราชการระดับสูงก็จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ผิดก็ว่ากันไปตามความผิด โดยไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
