เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ 10) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุปล่อยไวรัสคอมพิวเตอร์มัลแวร์เพื่อโจรกรรมเงินกว่า 12 ล้านบาท จากตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสินว่า ศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับนายรุสแตม แชมบาซอฟ (RUSTAM SHAMBASOV) ชาวรัสเซีย เลขที่ 562/2559 ฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมหรือแปลงขึ้น โดยพบว่านายรุสแตมเป็นหนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุลักเงินจากตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสินในหลายจังหวัด จากการตรวจสอบพบว่า เดินทางจากกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม และเดินทางออกจากประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา มีเป้าหมายมุ่งสู่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะประสานหมายจับกับตำรวจสากลเพื่อติดตามจับกุม ทั้งนี้ จากการสืบสวนมีหลักฐานชัดเจนว่า นายรุสแตมกดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่ จ.ภูเก็ต และกรุงเทพฯ รวม 18 จุด ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนเตรียมขอหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุอีกส่วนหนึ่งที่ร่วมก่อเหตุกับนายรุสแตม แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และยังไม่ยืนยันว่าเดินทางออกนอกประเทศแล้วหรือไม่ แต่เชื่อว่าจะติดตามจับกุมได้อย่างแน่นอน การสืบสวนชั้นนี้พบกลุ่มคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติ 3 คน และยอมรับว่ามีคนไทยเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจเป็นส่วนสนับสนุนการเดินทาง แต่จะต้องสอบสวนก่อนว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วยหรือไม่ ส่วนเจ้าหน้าที่ธนาคารขอยืนยันว่าไม่พบว่ามีส่วนรู้เห็น
ที่ปรึกษา (สบ 10) กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มคนร้ายส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศไทยหลายครั้ง และคนร้าย 2 คนที่ร่วมกับนายรุสแตมเคยลงมือก่อเหตุช่วงวันที่ 13-17 มีนาคม ที่ จ.พังงา ได้เงินไปกว่า 4 ล้านบาท และช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม คนร้ายกดเงินจากตู้เอทีเอ็มไปทั้งหมด 21 ตู้ ได้เงินประมาณ 12 ล้านบาท เงินบางส่วนยังอยู่ในประเทศ และบางส่วนถูกนำออกนอกประเทศโดยการโอนเงินข้ามประเทศไปแล้ว นอกจากนี้ ยังได้รับการยืนยันจากธนาคารออมสินว่า บริษัทที่ผลิตตู้เอทีเอ็มจะแก้ไขปรับปรุงระบบได้เสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์ และสามารถใช้งานได้ตามปกติ ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบรักษาความปลอดภัย
