วันที่ 1 กันยายน จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ ตอนเดียวสีขาวดัดแปลงเป็นรถห้องเย็นบรรทุกนมโครงการส่งให้กับโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ถูกกลุ่มคนร้าย 6 คน ใช้ จยย.3 คัน เป็นยานพาหนะขับติดตามไปตามถนนชนบท และใช้อาวุธปืนสงครามบังคับให้ลูกจ้างทั้ง 2 คน ที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการขนส่งนมให้กับโรงเรียนบ้านชะเมาสามต้น ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ลงจากรถ ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะขับรถส่งนมโรงเรียนดังกล่าวหลบหนีไปด้วย
ล่าสุด ศูนย์ควบคุมและสั่งการร่วมตั้งอยู่ภายในโรงเรียนบ้านเตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้ย้ายไปตั้งอยู่ในฐานร้อย ทพ.4401 หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 44 เพื่อคืนพื้นที่ให้กับโรงเรียนได้เรียนการสอนตามปกติ โดย พล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พล.ต.โภชน์ นวลบุญ ผบ.กองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กกล.ทพ.จชต.) รอง ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ผกก.สภ.สายบุรี นายอำเภอสายบุรี และหัวหน้าชุดปฏิบัติการร่วมทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมถึงกำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมสรุปและประเมินสถานการณ์ความคืบหน้าการจัดชุดออกไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงเบาะแสจากการรับแจ้งข่าวสารจากชาวบ้านในพื้นที่ ประกอบกับการศึกษาและประเมินเส้นทางจากแผนที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี โดยได้ประเมินความเป็นไปได้แบ่งเป็นเส้นทางสายหลักเชื่อมถนนในชุมชนไปต่อเขตพื้นที่อำเภอและจังหวัด ที่เป็นเขตรอยต่อพื้นที่ก่อเหตุ รวมถึงชุมชนหมู่บ้านจัดตั้งของกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบ ให้มีการจัดชุดเข้าตรวจพิสูจน์ต่อเนื่อง เพื่อหวังสร้างความกดดันให้กลุ่มคนร้ายหมดโอกาสหลบหนีไปกับรถส่งนมโรงเรียน
นอกจากนี้ รายงานระบุว่า ยังให้เพิ่มห้วงเวลาและเสริมกำลังเป็นชุดคอยตั้งจุดตรวจจุดสกัดเสริมในทุกเส้นทางให้มีความหนาแน่น เพื่อกดดันและปิดกั้นทุกเส้นทางจากจุดตรวจที่มีอยู่แล้วตามปกติ โดยให้เพิ่มชุดทหารพราน พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้านร่วมในการทำหน้าที่สร้างความเข้าใจและอธิบายความจำเป็น การเป็นผู้เชื่อมภารกิจการเป็นพยานในฐานะผู้นำชุมชนร่วมเข้าตรวจสอบในพื้นที่สวนยางพาราและสวนผลไม้ รวมถึงการขอเข้าตรวจภายในและโดยรอบบ้านต้องสงสัย ตามเส้นทางที่คนร้ายใช้รถขับหลบหนี และให้เพิ่มกำลังทหารพรานแบ่งเป็นชุดลาดตระเวนเดินเท้าเข้าตรวจพิสูจน์ตามพื้นที่ส่วนยางพารา สวนผลไม้ ที่คนร้ายอาจใช้เป็นแหล่งพักพิงจำพวกขนำท้ายหมู่บ้าน ซึ่งอาจใช้เป็นแหล่งพักรถและตัดแปลงสภาพรถรอจังหวะโอกาสขับหลบหนีย้ายรถออกนอกพื้นที่
ส่วนคืบหน้าการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมีแนวทางการสืบสวนสอบสวนจากข้อมูลข่าวสารจากชาวบ้านให้ขอมูลพบรถที่ถูกปล้นครั้งสุดท้ายมุ่งหน้าเข้าทางหมู่บ้านลานช้าง ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จึงมีการจัดชุดเร่งเข้าตรวจสอบบ้านต้องสงสัยหลังหนึ่ง สามารถควบคุมตัวชายต้องสงสัยมาซักถามและได้ขอตรวจเก็บสารพันธุกรรม หรือ ดีเอ็นเอ จนออกอาการมีพิรุธจึงเร่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานเร่งผลการตรวจสอบและนำไปเทียบเคียงกับเหตุการณ์ต่างๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าตรงกับเหตุการณ์ใดบ้าง ผลปรากฏว่าพบดีเอ็นเอตรงกับหลักฐานที่เก็บได้จากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายดักซุ่มกดฉนวนระเบิดใส่รถวีว่าขณะกำลังขับลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยเส้นทางครูไปโรงเรียน จนเป็นเหตุให้รถพังเสียหายหนักและยังเป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิต 2 นาย เหตุเกิดบนถนนสายกะพ้อ-มะนังดาลำ เมื่อ 16 ต.ค.58 จึงได้ควบคุมตัวและส่งตัวให้ร้อยเวร สภ.สายบุรี สอบสวนลงบันทึก และเตรียมขอศาลออกหมายจับในคดีร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดจนทำให้ทหารเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว รวมถึงได้ขอตัวไปซักถามขยายผลหาความเชื่อมโยงกับคดีอื่นๆ โดยเฉพาะมีส่วนร่วมในการก่อเหตุ หรือมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์คนร้ายทั้ง 6 คน ที่ปล้นรถส่งนมโรงเรียนหรือไม่
ร.อ.ยรรยงค์ จงหมาย ผบ.ร้อย ทพ 4411 หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 44 กล่าวว่ากำนันผู้ใหญ่บ้านปกติจะคอยทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยพื้นที่หมู่บ้านตนเองอยู่แล้ว และเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกำนันผู้ใหญ่บ้านจะต้องคอยรับผิดชอบดูแลช่วยสแกนหมู่บ้าน และจะคอยทำหน้าที่ร่วมกับกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง โดยมีหน้าที่คอยช่วยเหลือดูแลลูกบ้านของตนเองในแต่ละหลังว่าเป็นอย่างไร ในยามมีเหตุการณ์ก็จะมาทำหน้าที่พาตรวจสอบตามบ้านที่สงสัยและทำความเข้าใจให้ชาวบ้านรับทราบ ก่อนที่จะให้กำลังเข้าตรวจค้น การกระทำแบบนี้จะช่วยให้ชาวบ้านมีความรู้สึกที่ดีและพอใจมากกกว่า เพราะหากมีการเชิญผู้นำเข้ามาร่วมด้วย ชาวบ้านเองจะมีความรู้สึกดีว่าทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ไม่ได้กระทำไปโดยพลการ และยังเป็นคำสั่งการเน้นย้ำกำชับจากผู้บังคับบัญชาว่า การเข้าตรวจสอบ หรือพิสูจน์ทราบพื้นที่บ้านต้องสงสัย ทุกครั้งจะต้องเชิญให้กำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้นำเข้าร่วมตรวจค้น เพื่อให้เกิดความสบายใจในส่วนของชาวบ้านและฝ่ายเจ้าหน้าที่ด้วย