จากกรณีที่ น.ส.ศุภิสรา แซ่โง้ว อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/15 หมู่บ้านศรีนครินทร์ ปาร์ค ซอยสวนอาหารเบิกไพร ถนนบางนา-ตราด กม.45 แขวงและเขตบางนา เชฟร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.ธนิต กิจพฤกษ์ พนักงานสอบสวน สน.บางนา หลังจากขัดแย้งกันเรื่องสุนัขของ น.ส.ดารัณ บุญยศักดิ์ หรือนุ่น อายุ 36 ปี พี่สาวของ น.ส.เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ หรือพลอย สองพี่น้องดาราชื่อดัง จนเกิดเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันขึ้น โดยเหตุเกิดเวลา 23.00 น. วันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 มกราคม ที่ สน.บางนา ทาง น.ส.ศุภิสรา เข้าพบ ร.ต.ท.ธนิต กิจพฤกษ์ พนักงานสอบสวน สน.บางนา เพื่อให้การเพิ่มเติมกรณีดังกล่าว พร้อมทั้งแจ้งข้อหาแก่ น.ส.ดารัณ 4 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกาย ทารุณกรรมสัตว์ ทำให้เสียทรัพย์และข่มขู่ พร้อมนำภาพที่ถ่ายจากโทรศัพท์ขณะเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุมอบให้เป็นหลักฐาน ประกอบคำให้การเพิ่มเติม
น.ส.ศุภิสรากล่าวว่า บ้านของตนและคู่กรณีอยู่ห่างกันประมาณ 16 เมตร ที่บ้านเลี้ยงสุนัข 2 ตัว คือ โกลเด้นรีทรีฟเวอร์และเฟรนช์บลูด็อก ส่วนบ้านฝั่งคู่กรณีเลี้ยงสุนัขพันธุ์บลูด็อกและบางแก้ว คู่กรณีให้ลูกจ้างพม่าเป็นคนจูงสุนัขออกมาเดินเล่นในซอยของหมู่บ้านเป็นประจำ และมักจะหลุดเข้ามากัดสุนัขของตน 2-3 ครั้ง โดยตนไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด กระทั่งมาเกิดเหตุครั้งนี้ขึ้น หลังเกิดเหตุตนไปตรวจร่ายกายที่โรงพยาบาลไทยนครินทร์ เบื้องต้นแพทย์ระบุว่า มีบาดแผลเป็นรอยช้ำบริเวณสีข้างด้านซ้าย และกลางแผ่นหลังลักษณะรอยยาวถูกตีจากของแข็งไม่มีคม และผลการตรวจเอกซเรย์ ไม่พบว่ามีกระดูกส่วนใดในร่างกายหัก
น.ส.ศุภิสรากล่าวต่อว่า การเข้าแจ้งความในวันนี้จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม 4 ข้อหา ขณะเกิดเหตุคู่กรณีนำไม้ยาวมาตีสุนัขไม่ยั้งมือ และใช้ไม้เข้ามาทำร้ายร่างกายตน ส่วนที่แจ้งข้อหาข่มขู่นั้น เนื่องจากหลังเกิดเหตุมีชายชุดดำเดินตามตนไปยังบ้านพักพร้อมถ่ายรูปตนไว้ตลอด จนทำให้เกิดความหวาดกลัวและไม่ปลอดภัย ส่วนข้อหาทำให้เสียทรัพย์นั้นเนื่องจากขณะเกิดเหตุชุลมุนทำให้ต่างหูเพชรข้างซ้าย ราคาประมาณ 1 แสนบาท หลุดหายไป อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลตรวจร่างกายจากแพทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง จึงจะทราบผลประมาณ 2-3 วัน
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ศรีวารีรัตน์ พนักงานสอบสวน ผู้ทรงคุณวุฒิ สน.บางนา เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนรับเรื่องร้องทุกข์คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว และให้เดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อนำผลตรวจจากแพทย์มาประกอบกับคำให้การก่อนหน้านี้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าฝ่ายใดเป็นคนเริ่มก่อเหตุก่อน อีกทั้งพนักงานสอบสวนจะเรียกพยานแวดล้อมในเหตุการณ์ 5 คน หนึ่งในนั้นเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านมาสอบปากคำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาแก่ฝ่ายใด ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่ายแน่นอน
เวลา 13.00 น. น.ส.ศุภิสราเปิดเผยหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า มาให้ปากคำเพิ่มและประสงค์แจ้งข้อหากับคู่กรณีเพิ่มเติม หลังจากนี้จะรอการติดต่อประสานจากทางพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ในส่วนของการเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา โดยที่ตนจะเดินทางมาพร้อมกับทนายความอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้ระบุวันและเวลา ยืนยันว่าบริสุทธิ์ใจและยืนยันในความถูกต้องชัดเจนว่าความจริงก็คือความจริง เรื่องที่เกิดขึ้น หากคู่กรณีไม่ใจร้อนปัญหาต่างๆ คงจะไม่เกิดขึ้น
ขณะที่เวลา 14.30 น. น.ส.ดารัณ เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยนำใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลไทยนครินทร์ มามอบไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.ดารัณกล่าวว่า เดินทางมาเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าในวันและเวลาที่เกิดเหตุตนไม่มีเจตนานำไม้ไปเพื่อทำร้ายร่างกายคู่กรณี เนื่องจากช่วงเย็นหลังจากที่สุนัขของตนถูกสุนัขของคู่กรณีกัดแล้ว ต้องการเดินเข้าไปถามว่าสุนัขฉีดยาหรือไม่ พร้อมกับนำไม้ไปเพื่อป้องกันตัว เกรงว่าสุนัขของคู่กรณีจะเข้ามากัด เมื่อเดินไปถึงคู่กรณีตะโกนขึ้นมาทำนองว่า “หมาฉันไม่ผิด” ก่อนที่สุนัขทั้ง 2 ตัว คือพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์และเฟรนซ์บลูด็อกของคู่กรณี จะวิ่งเข้ามาหาตน พร้อมทั้งพยายามกัดขาและแขนตน จึงจำเป็นต้องใช้ไม้ตีป้องกันตัว ขณะเดียวกันคู่กรณีเข้ามาแย่งไม้ไป ทำให้เสี้ยนตำนิ้วมือ จังหวะที่ชุลมุนนั้นรปภ.เข้ามาช่วยห้าม ทำให้ทั้งตนและรปภ.ถูกตีไปด้วย ก่อนจะแยกย้ายกัน ระหว่างที่ตนโทรศัพท์เรียกหน่วยกู้ชีพพิรุณมาทำแผลให้นั้น คู่กรณีถือมีดทำครัวมาเคาะประตูรั้ว พร้อมตะโกนเรียกให้ตนออกไป แต่เพราะความกลัวจึงไม่ยอมออกไป รอจนกระทั่งตำรวจสายตรวจเดินทางมาถึง
น.ส.ดารัณกล่าวต่อว่า ในส่วนคู่กรณีอ้างว่าตนเรียกชายชุดดำมาถ่ายรูปพร้อมข่มขู่นั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากเจ็บตัวขับรถไม่ไหว จึงเรียกคนขับรถมารับ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่เคยเรียกร้องค่าเสียหายแม้แต่บาทเดียว แต่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง รวมทั้งอยากผลักดันพ.ร.บ.เกี่ยวกับสัตว์ให้เจ้าของดูแลและรับผิดชอบในสัตว์เลี้ยงของตนให้ได้ อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างปรึกษาทนายความว่าจะสามารถแจ้งข้อหาใดเพิ่มได้อีกหรือไม่ ยืนยันว่ามั่นใจในพยานหลักฐานที่มีว่าจะสามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของตนได้ และจะไม่ยอมไกล่เกลี่ยอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ หลังให้ปากคำ น.ส.ดารัณ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาตนทั้ง 4 ข้อหา โดยให้การปฏิเสธพร้อมยืนยันจะต่อสู้คดี ทั้งนี้ตนแจ้งข้อหาคู่กรณีเพียง 2ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกาย และคดีทางแพ่ง กรณีปล่อยปละละเลยสุนัข จนออกมาก่อความเดือดร้อน โดยยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่คู่กรณีเพิ่มแต่อย่างใด ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเกรงจะกระทบต่อรูปคดี