วันที่ 5 กันยายน เมื่อเวลา 09.00 น. นายบัญชา หาดทรายทอง ชาวเลราไวย์ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วยนายพสิษฐ์ ถาวรล้ำเลิศ ทนายความ เดินทางมาที่ศาลจังหวัดภูเก็ต เพื่อรายงานตัวตามคำสั่งศาลจังหวัดภูเก็ต ในคดีที่นางสาวจินดารักษ์ ธรรมจักร ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องฐานบุกรุกฯในที่ดินหมู่บ้านชาวเลฯ หมู่ 2 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต โดยในวันนี้ศาลจังหวัดภูเก็ตได้นัดพร้อมครั้งเเรกฝ่ายโจทก์เเละจำเลยเพื่อให้การ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
นายบัญชากล่าวว่า ตนเองเป็นหนึ่งในชาวเลฯกว่า 10 คน ที่ถูกฟ้องบุกรุกฯทั้งที่ที่ดินดังกล่าวตนเองเเละครอบครัวได้อาศัยมาตั้งแต่รุ่นปู่ รวมอายุกว่า 100 ปี มาถึงสมัยรุ่นพ่อ ซึ่งขณะนี้มีอายุเกือบ 70 ปี ส่วนตนเองนั้นปัจจุบันอายุ 45 ปี โดยอาศัยในพื้นที่ประมาณ 100 ตารางวา อยู่ตรงกลางหมู่บ้านไม่ไกลกับจุดที่พบกระดูกของบรรพบุรุษที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและหลายหน่วยงานร่วมตรวจสอบ เดิมทีเคยเปิดเป็นร้านแกลลอรี่ขายรูปภาพ แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นร้านอาหาร
หลังจากที่มีการอ้างเอกสารสิทธิ ทำให้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ตนเองได้ถูกฟ้องร้องมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกศาลฯชั้นต้นยกฟ้องเเต่โจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ ต่อมาศาลได้ถอนฟ้องคดีเนื่องจากโจทก์คนเดิม นายจำเริญ มุกดี ซึ่งเป็นปู่ของนางจินดารักษ์ได้เสียชีวิต ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม ซึ่งนางสาวจินดารักษ์จะได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีใหม่ในคดีละเมิด บุกรุก ขับไล่ และศาลฯรับฟ้อง
สำหรับพื้นที่ดังกล่าวในรายของนางสาวจินดารักษ์มีการออกเอกสารสิทธิครอบคลุมพื้นที่จำนวน 12 ไร่ จากทั้งหมด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ชาวเลอาศัยจำนวน 19 ไร่ ปัจจุบันในพื้นที่ 12 ไร่ ที่ตนอาศัยมีชาวเลอาศัยอยู่รวมกว่า 80 ครัวเรือน มีผู้ถูกฟ้องร้องละเมิด บุกรุก ขับไล่เเล้วกว่า 10 ราย และนอกจากนี้ในพื้นที่รวม 19 ไร่นั้น มีการฟ้องร้องชาวเลรวมกว่า 100 คน อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่ฟ้องร้องดังกล่าวทางจังหวัดภูเก็ตได้มีแผนที่จะซื้อที่ดินทั้งหมด 19 ไร่ จากเอกชนผู้อ้างกรรมสิทธิ์เพื่อพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยให้กับชาวเลฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
ล่าสุด นายบัญชากล่าวภายหลังเข้าพบว่า ศาลฯได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องประกันตัว เเต่ให้มาตามนัดของศาลฯ ซึ่งจะนัดให้การอีกครั้งในเดือนเมษายนปีหน้า