ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.00 น. วันที่ 5 กันยายน คณะเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดรื้อถอนจำนวนราว 300 นายพร้อมรถแบ๊กโฮ 2 คัน ได้เคลื่อนย้ายไปที่รีสอร์ตทับเบิกภูฏาน และหลังจากเจ้าหน้าที่ชุด EOD กองพล ม.1 จ.เพชรบูรณ์ ทำการตรวจสอบวัตถุระเบิดที่ภายในและรอบอาคารแล้ว เจ้าหน้าที่ พม. จึงเข้าทำการสำรวจสิ่งของและทรัพย์สินภายในอาคาร โดยพบสิ่งของบางส่วนอาทิ จานดาวเทียม ถังน้ำ โคมไฟ ที่นอน ยังเหลือตกค้างจึงขนย้ายออกจากตัวอาคาร จากนั้นจึงเจ้าหน้าที่ชุดรื้อถอนเข้าดำเนินการด้วยแรงคน ก่อนจะใช้รถแบ๊กโฮเข้าจ้วงรื้ออาคารดังกล่าว ท่ามกลางการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุม เพื่อห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกบริเวณพื้นที่รื้อถอนอีกด้วย
อย่างไรก็ตามปฏิบัติการรื้อถอนดำเนินไปจนเมื่อถึงเวลา 12.00 น. ทางเจ้าหน้าที่จึงหยุดพักเที่ยง โดยการรื้อถอนดำเนินการเสร็จสิ้นไปเพียงราว 70% หลังเสร็จสิ้นการหยุดพักเที่ยง โดยหลังเสร็จการพักรับประทานอาหารแล้วเครื่องรถแบ๊กโฮได้ดำเนินการรื้อถอนต่อเนื่องโดยทันที
อย่างไรก็ตามระหว่างปฏิบัติการรื้อถอนไม่มีการต่อต้านขัดขวางจากผู้ประกอบการแต่อย่างใด นอกจากขณะทำการรื้อถอนยังมีญาติของเจ้าของรีสอร์ตดังกล่าวมายืนสังเกตการณ์เฝ้ามองเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องจักรทำการทุบรื้ออาคารดังกล่าว และบางช่วงถึงกับน้ำตาไหลจนถึงยกมือขึ้นปาดน้ำตาด้วยความเสียใจเป็นระยะๆ นอกจากนี้ระหว่างเครื่องจักรทำการรื้อถอน ได้มีรถนักท่องเที่ยวที่มาพักค้างแรมบนภูทับเบิกซึ่งขับรถผ่าน ถึงกับงัดกล้องมือถือออกมาถ่ายเก็บภาพด้วยความสนใจ
ต่อมาเวลา 13.00 น. นายกฤษณ์ คงเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย นายอำเภอหล่มเก่า พ.อ.ถนัดพล โกสัยเสวี เสนาธิการกองพล ม.1 นายบุญลาภ สุกใส ผอ.สำนักบริหารทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก พร้อมคณะ ได้เดินทางมาสำรวจดูความคืบหน้าการรื้อถอนที่รีสอร์ตทับเบิกภูฏาน เนื่องจากเกรงจะมีเศษวัสดุจากการรื้อถอนจะร่วงไปใส่อาคารบ้านพักของรีสอร์ตข้างเคียง
