วันที่ 5 กันยายน ความคืบหน้าคดีฆาตกรรมนางกอง พมสาลี อายุ 40 ปีและนางจันสะหมอน เสนสักดา อายุ 26 ปี 2 สาวชาวเมืองไซภูทอง แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ซึ่งถูกฆ่าก่อนทิ้งศพไว้ในป่าละเมาะระหว่างหมู่บ้านกุดหว้า-หนองห้าง ในเขต ต.หนองห้าง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภ.4 นายวินัย วิทยานุกูล ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และนายสอนเพชร เพียรบุพผา กงสุล สปป.ลาว ณ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ และชุดสืบสวนภาค 4 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดีฆาตกรรมหญิงสาวสัญชาติลาว 2 ศพ โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันลงมือฆ่าตามหมายจับของศาล จ.กาฬสินธุ์ รวม 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายเฉลิมพงษ์ ฉายไสว หรือเป้ อายุ 32 ปี 2.นายโอกาศ ตั้งใจมั่นดีกุล หรือเอี้ยง อายุ 36 ปี 3.นายธงชัย ทีจันทร์มาตย์ หรือ ทน อายุ 24 ปี 4.นายปุณณภพ ภูศิลาแทน หรือ สัน อายุ 53 ปี และ 5.นางกุลนันท์ แสงโสภณ หรือ เอ อายุ 37 ปี ซึ่งผลการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนมาแถลง มีเพียงการนำแผ่นชาร์ตมาแสดงแผนการลงมือฆ่าเท่านั้น และจะนำตัวไปทำแผนภายหลังการสรุปผลการจับกุม โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ
พล.ต.ต.อภิชิตกล่าวว่า สืบเนื่องจากเหตุดังกล่าวจึงได้มีการร่วมกันทำงานของชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ประกอบด้วย ชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์, กก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และ บก.สส.ภ.4 ทราบว่าผู้ตายทั้งสองได้เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านด่านพรมแดน จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2559 และกลุ่มคนร้ายซึ่งเป็นชาวไทย ได้ล่อลวงผู้ตายขึ้นรถยนต์ 2 คัน นำตัวมาที่บริเวณถนนเลี่ยงเมืองมุกดาหาร – ดอนตาล แล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงผู้ตายทั้งสองภายในรถจนเสียชีวิต แล้วนำศพมาทิ้งที่เกิดเหตุ แล้วแยกย้ายกันหลบหนีไป ต่อมาชุดสืบสวนสามารถจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายได้ทั้งหมด จำนวน 5 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 1 คน ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน อาวุธปืน 1 กระบอก โดยนำตัวมาดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและซ่อนเร้น ย้าย ทำลายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ดำเนินคดีต่อไป
ส่วนกลุ่มผู้ต้องหารวม 4 คน ได้ให้การรับสารภาพ ซึ่งนายโอกาศ ตั้งใจมั่นดีกุล หรือเอี้ยง ถูกให้การซัดทอดว่าเป็นผู้ลงมือยิงยังคงให้การภาคเสธ โดยกลุ่มผู้ต้องหาให้การว่า กลุ่มของตนมีชื่อแก๊งว่า ช.ช้างดำ ซึ่งได้รับการว่าจ้างจาก “เจ๊นาง” ซึ่งเป็นหญิงสัญชาติลาวเป็นขาใหญ่ใน ตำบลไซภูทอง แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เป็นจำนวนเงิน 400,000 บาท เพื่อให้ฆ่านางจันสะหมอน และนางกอง โดยได้ไปเปิดห้องพักในจังหวัดมุกดาหารรอจนกว่าผู้ตายเดินทางข้ามฝั่งมายังตลาดสดเทศบาล 1 และได้นำตัวทั้ง 2 คน ขึ้นรถเก๋งยี่ห้อนิสสันมายังถนนเลี่ยงเมือง จากนั้นนายโอกาศ ตั้งใจมั่นดีกุล หรือเอี้ยง ก็ชักปืนออกมาจ่อยิงหัวทั้งสองคนภายในรถทันที แล้วนำศพยัดใส่ท้ายท้ายรถพาไปทิ้งในป่ายัง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเกิดจากความแค้นส่วนตัวในเรื่องชู้สาว ที่ทราบว่า “เจ๊นาง” โกรธแค้นผู้ตาย ซึ่งแอบไปกิ๊กกับสามี ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้เร่งรัดติดตามตัวผู้จ้างวาน โดยดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป
ด้านนายสอนเพชรกล่าวว่า ในนามตัวแทนญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตขอขอบคุณตำรวจไทย โดยเฉพาะตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ และชุดสืบสวนภาค 4 ที่ร่วมกันทำงานติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้โดยเร็ว ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้คนลาวก็ตกใจ แต่หลังจากพบศพเพียงไม่กี่วัน ตำรวจไทยก็สามารถจับได้ต้องขอขอบคุณตำรวจทุกนายที่ช่วยเหลือจับกุม ซึ่งเรื่องนี้จะกลับไปรายงาน กงสุล สปป.ลาว ต่อไป ทั้งนี้ในส่วน กงสุล สปป.ลาว ก็พร้อมให้การช่วยเหลือการนำศพกลับภูมิลำเนาด้วย
ทั้งนี้ ล่าสุดญาติของผู้ตายทั้งสองคนได้เดินทางมาจุดธูปบริเวณป่าที่พบศพเพื่อเชิญดวงวิญญาณกลับและรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลบ้านเกิดแล้ว โดยได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพไปส่งยังด่านสะพาน จ.มุกดาหาร