เจ้าพนักงาน อบต.ระบำฟ้องกลับ กลุ่มร้องเรียนกล่าวหาพกปืนข่มขู่ ยันไม่ย้ายเพราะไม่ได้ทำผิด

วันที่ 5 กันยายน เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี นายชัยวัฒน์ ชุมคำ อายุ 47 ปี เจ้าพนักงานพัสดุชำนาญงาน อบต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ สภ.ลานสัก จากกรณีเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่เจ้าหน้าที่ อบต.ระบำ พร้อมด้วยสมาชิก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทั้ง 9 หมู่บ้าน ในพื้นที่ ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี กว่า 42 ราย เข้าร้องเรียนต่อ ดร.อลงกต วรกี นายอำเภอลานสัก ให้ช่วยดูแลความปลอดภัย โดยกล่าวว่านายชัยวัฒน์ พกพาอาวุธปืนในสถานที่ราชการ และมีการนำไปใช้ข่มขู่ จนเจ้าหน้าที่ อบต.หวาดกลัวเรื่องความปลอดภัย ไม่กล้าเข้าปฏิบัติหน้าที่กันเกือบทั้ง อบต. และได้มีการทำหนังสือยื่นคำร้องกับทางอำเภอลานสัก ว่าให้เรียกตัว นายชัยวัฒน์ มาปฏิบัติราชการที่อำเภอลานสักแทน แต่นายชัยวัฒน์ ไม่ยินยอมในการเรียกตัวมาปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว โดยกล่าวยืนยันว่าตนนั้นไม่ได้ทำผิดอะไร พร้อมกับทำการแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มผู้ร้องเรียนดังกล่าว ไว้ที่สภ.ลานสักเมื่อช่วงบ่ายวันนี้อีกด้วย

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ตนนั้นได้ถูกเจ้าหน้าที่อบต. พร้อมด้วยสมาชิก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวม 42 คนเดินทางมาร้องกับนายอำเภอในเรื่องดังกล่าว แต่ตนขอยืนยัน ณ ที่นี้ว่าตนนั้นถูกกลั่นแกล้ง เหตุคงเป็นเพราะเรื่องการไม่ให้ความร่วมมือกับทาง อบต. ในบางเรื่องที่ตนนั้นคิดว่ามันไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม ตนจึงจะไม่ยินยอมและไม่เห็นด้วย เนื่องจากตนนั้นได้ยึดระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างถูกต้องทุกอย่าง จึงทำให้งานบางชิ้นอาจจะติดขัดและล่าช้าหรือทำไม่ได้ เพราะตนคิดว่ามันไม่ถูกต้อง จึงทำให้กลุ่มผู้ที่มาร้องเรียนตนนั้นไม่พอใจ จึงได้ทำหนังสือมาถึงนายอำเภอว่าให้มีหนังซื้อสั่งการ ให้ตนเองมาปฏิบัติหน้าที่  ยังอำเภอลานสัก แต่ตนเองได้ปฏิเสธไปเนื่องจากตนนั้นไม่ได้ผิดอะไร ซึ่งตนคิดว่าประเด็นที่ทำให้เกิดปัญหาน่าจะเป็นเรื่องที่สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่5 สิงหาคม 59 ที่ผ่านมา ทาง ปปช.ได้มีหนังสื่อชี้ความผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐว่ามีการทุจริตโครงการ ถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) ในพื้นหมู่ที่ 8 ต.ระบำ โดยชี้มูลความผิดร้ายแรง โดยมีรองปลัดฯ พัฒนาชุมชน และอดีตนายก ร่วมกับผู้รับเหมา ว่าผิดวินัยร้ายแรงดำเนินคดีอาญา ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้คิดว่าตนเองนั้น เป็นผู้ร้องเรียนในเรื่องดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็ได้ปฏิเสธไปตลอดว่าตนเองไม่ได้ร้องเรียนอะไรเลย และได้แจ้งกับบุคคลเหล่านั้นว่าให้ไปดูที่ศาลก็จะรู้ว่าเป็นใคร เพราะต้องมีชื่อผู้ร้องอยู่ให้ไปตรวจสอบที่นั่นได้เลยว่าเป็นตนจริงหรือไม่

นายชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า กลุ่มผู้ที่มาร้องเรียนกันนั้น ตนคาดว่าเป็นการเกณฑ์กันมา เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ อบต.สมาชิก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านบางรายรวมทั้งหมด 42 คน มาลงชื่อ เพื่อขับไล่ ตนเองนั้นออกนอกพื้นที่โดยไม่มีเหตุผล โดยเพียงอ้างว่าตนนั้นได้นำปืนไปข่มขู่ที่ อบต.ก่อนหน้านี้ ซึ่งปืนยาว .22 แต่ปืนดังกล่าวนั้นอยู่ในของตนเท่านั้น และมีทะเบียนถูกต้อง ซึ่งก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้ว และมีเจ้าหน้าที่บางรายได้แอบถ่ายรูปไว้ และนำมากล่าวหาว่าตนเองนั้นมีอาวุธปืนเพื่อข่มขู่ จึงนำมาใช้ในการกล่าวอ้างขอย้ายตัวและขับไล่ตนออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งตนเองนั้นขอปฏิเสธว่าไม่ย้ายแน่นอน ต่อให้ตนเองถูกยิงตายก็ไม่ว่ากัน เพราะปัญหาใน อบต.นั้นเยอะมาก ตนเองเป็นคนตรงไปตรงมา หากอะไรที่ตนนั้นคิดว่ามันจะมีแนวโน้มไปทางทุจริตหรือผิดกฎระเบียบและกฎหมาย ตนนั้นก็จะแย้งและจะไม่ยินยอมเซ็นดำเนินการให้เด็ดขาด ทำให้การเบิกจ่ายหรือการดำเนินงานเหล่านั้นไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ จึงอาจทำให้มีคนชอบอยู่แล้ว จึงหาวิธีให้ตนเองนั้นออกจาก อบต.ดังกล่าว