เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 กรณีผู้ปกครองเณรวัย 11 ปี ในจังหวัดอุดรธานี โพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยว่า ลูกหลานไปบวชเณรภาคฤดูร้อนแล้วไม่ปลอดภัย โดนพระรูปหนึ่งทำอนาจาร พร้อมโพสต์รูปภาพและคลิปวิดีโอขณะที่คณะกรรมการวัด, พระสงฆ์, สามเณร, เจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านที่กำลังนั่งสอบถามข้อเท็จจริงภายในศาลาการเปรียญของวัด
หลังตกเป็นข่าวพระรูปดังกล่าวคือ พระธวัช หรือพระทัย สุโขพันธ์ อายุ 40 ปี ได้เดินทางจากจังหวัดอุดรธานีมาจำวัดที่วัดพูนสุข ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นวัดต้นสังกัด
โดยพระธวัชได้ออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า การออกมาร้องเรียนของผู้ปกครองของเณรเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะตนได้รับการมอบหมายจากผู้ปกครองให้เป็นพระพี่เลี้ยงของเณร คอยดูแลเอาใจใส่เณรที่มาบวชภาคฤดูร้อน จำนวน 3 คน ซึ่งตนจะต้องคอยดูแลเรื่องระเบียบ ตั้งแต่การอาบน้ำ การแต่งกายทุกอย่าง
ยอมรับว่าได้จับอวัยวะเพศเณรจริง แต่เป็นการจับแบบหยอกๆ โดยการใช้มือเขี่ยเล่น และใช้คำว่า ”บักหำน้อย” ตามประสาผู้ใหญ่หยอกเด็กของคนภาคอีสาน ไม่มีเจตนาจะคิดเป็นอย่างอื่น ส่วนใหญ่จะหยอกตอนอาบน้ำหรือการแต่งกาย
การเดินทางมาจังหวัดบุรีรัมย์ในครั้งนี้ไม่ได้หลบหนี แต่เพื่อเป็นการลดความขัดแย้งของชุมชนที่ จ.อุดรธานี สาเหตุที่มีการร้องเรียนในครั้งนี้ส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะโดนกลั่นแกล้ง เพราะตนจะทำงานเด่นกว่าพระรูปอื่นๆ ภายในวัด ซึ่งอาจจะมีผู้ไม่หวังดีคอยยุยงผู้ปกครองเณรให้มาร้องเรียน
พระธวัชยังกล่าวด้วยว่า ตอนนี้ตนยืนยันในความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้มีจิตใจคิดไปในทางลามก แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ให้หาหลักฐานมายืนยันว่าตนได้กระทำจริงหรือไม่ แต่หากมีการแจ้งความเอาผิด ตนก็จะฟ้องกลับทันที แต่ถ้าต่างคนต่างอยู่สงบ ตนก็จะสงบ และยืนยันว่าไม่หนีไปไหนอย่างแน่นอน
